รู้จัก 5 พรรคใหญ่ โค้งสุดท้ายเลือกตั้งอังกฤษ
อดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน หัวหน้าพรรคอนุรักษ์นิยม (Conservative Party) อาจต้องออกแรงหาเสียงหนัก ในการเลือกตั้งคราวที่แล้วเมื่อ 5 ปีก่อน เขาได้คะแนนเสียงข้างมากคือ 306 เสียงและเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลผสม นับเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่อังกฤษมีรัฐบาลผสม ในการเลือกตั้งครั้งนี้ คู่แข่งสำคัญของเดวิด คาเมรอนก็คือพรรคแรงงาน (Labour Party) ของเอ็ด มิลิแบนด์ ซึ่งในการเลือกตั้งคราวที่แล้วได้ 258 ที่นั่ง สื่อหลายสำนักคาดการณ์ว่าเขาอาจจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งนี้
อีกพรรคหนึ่งที่ลงชิงชัยในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ พรรค Liberal Democrat ซึ่งมีนิค เคล็ก เป็นหัวหน้าพรรค แต่กระแสความนิยมของเคล็กในการเลือกตั้งครั้งนี้ แผ่วลงมาก นักวิเคราะห์การเมืองบางสำนักถึงกับทำนายว่าเขาจะแพ้ในเขตการเลือกตั้งของตัวเองด้วย
คนที่มาแรงที่สุดและได้รับการพูดถึงมากคือ นิโคลา สเตอร์เจน หัวหน้าพรรค SNP หรือ Scottish National Party ขณะนี้คะแนนของพรรค SNP กำลังมาแรงอาจจะแซงทางโค้ง
คนสุดท้ายที่ต้องจับตาในการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ ไนเจล ฟาราจ หัวหน้าพรรค UK Independence หรือ UKIP ซึ่งมีแนวทางที่แตกต่างจากพรรคอนุรักษ์นิยมอย่างสิ้นเชิง คือ ต้องการให้ประเทศอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป ฟาราจเคยอยู่พรรคอนุรักษ์นิยมแต่ออกมาจากพรรคเพราะมีแนวทางไม่ตรงกัน
พรรคที่จะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลจะต้องได้คะแนนเสียง 326 ที่นั่งขึ้นไป หรือกึ่งหนึ่งของที่นั่งในสภาทั้งหมด 650 ที่นั่ง แต่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าคงจะไม่มีพรรคไหนได้เกิน 326 เสียง โฉมหน้ารัฐบาลใหม่ของอังกฤษจึงน่าจะเป็นรัฐบาลผสม คำถามก็คือใครจะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
เมื่อดูจากผลการเลือกตั้งคราวที่แล้วในปี 2010 พรรคอนุรักษ์นิยมได้ 36.1 เปอร์เซนต์ ตามด้วยพรรคแรงงาน (29 เปอร์เซ็นต์) พรรค Liberal Democrat (23 เปอร์เซ็นต์) และพรรคอื่นๆ (11 เปอร์เซ็นต์)