นพ.ประเวศ เสนอ 6 วาระปฏิรูปไทย ทั้งแรงงาน-เกษตรกรรม-อาหารและการเมือง
ศาสตราจารย์นพ.ประเวศ วะสี ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศกล่าวในงานแถลงข่าวการจัดสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 2 "เพิ่มพลังพลเมือง สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ" ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 มีนาคม - 1 เมษายน 2555 ณ ศูนย์การแสดงนิทรรศการไบเทค กรุงเทพฯ
โดยศ.นพ.ประเวศยังมีมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศไทยเพิ่มเติม โดยตอนหนึ่ง ศ.นพ.ประเวศได้กล่าวถึงการปฏิรูปประเทศไทยว่า “การปฏิรูปประเทศไทย ถือเป็นการเปิดพื้นที่ทางสังคม และพื้นที่ทางปัญญา เนื่องจากประเทศไทยเผชิญวิกฤติปัญหาโครงสร้างที่สลับซับซ้อน เกิดความไม่เป็นธรรม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม จึงเป็นต้นเหตุของการเกิดปัญหาสังคม สุขภาพ ความยากจน และความรุนแรง”ประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศกล่าว
ศ.นพ.ประเวศยังแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่าประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญมาแล้วถึง 18 ฉบับ แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาในประเทศเราที่เกิดขึ้นได้ เพราะว่ารัฐบาลที่ผ่านๆ มา มุ่งแต่การแย่งชิงอำนาจทางการเมือง ซึ่งหากเรายังไม่สามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ ก็เชื่อว่าปัญหาจะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยอาจจะเกิดวิสัญญี กลียุค คนไทยจะฆ่ากันตายเป็นหมื่นแสนคน มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหมือนต่างประเทศ ดังนั้น เราจะต้องหาทางที่จะป้องกัน และระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวลุกลามขึ้น
ประธานสมัชชาปฏิรูปประเทศ กล่าวว่า ปัญหาที่ประเทศไทยประสบพบเจออยู่นั้นเปรียบเสมือนหลุมดำของประเทศ ซึ่งหลุมดำเหล่านั้นจะส่งผลให้เกิดการคอรัปชั่น การแตกแยกกันทางการเมือง การริดรอนอำนาจในท้องถิ่นจนส่งผลให้ท้องถิ่นเกิดความอ่อนแอ รวมถึงกลายเป็นสาเหตุของการทำรัฐประหารอย่างง่ายดาย ซึ่งหลุมดำของประเทศนั้นเกิดจากการรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง จึงเกิดปัญหารุมเร้าประเทศไทย ในหลายเรื่อง ได้แก่ ชุมชนท้องถิ่นอ่อนแอ เพราะทุกอย่างต้องรอการแก้ปัญหาจากส่วนกลาง หรือ ผู้นำประเทศ ระบบราชการมีสมรรถนะตกต่ำ เพราะใช้แต่อำนาจ เกิดการคอรัปชั่นสูงขึ้นทำให้การเมืองต้องใช้เงินลงทุนมาก เกิดการต่อสู้อย่างรุนแรง มีการแย่งชิงอำนาจและตำแหน่ง โดยเฉพาะรัฐมนตรี ซึ่งปัญหาต่างๆ เหล่านี้จะทำให้เกิดการรัฐประหารได้ง่าย โดยใช้ทหารไม่กี่ร้อยคนก็ยึดอำนาจได้แล้ว นอกจากนี้แล้วนักการเมือง และข้าราชการ ใช้อำนาจเกินตัว แต่ไม่ใช้ความรู้แก้ปัญหาดังนั้นการแก้ปัญหาจึงต้องมีการปฏิรูปประเทศใหม่ ต้องสร้างฐานรากของประเทศให้มั่นคง หมายถึงประชาชนในระดับท้องถิ่น และเลิกการรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลางเท่านั้น
ทั้งนี้ ประชาธิปไตยชุมชน คือฐานของประชาธิปไตย การสร้างพระเจดีย์จากยอด ไม่มีทางไม่สำเร็จ จะเห็นได้ว่า เราพัฒนาประเทศด้วยความพยายามสร้างพระเจดีย์จากยอด เสร็จแล้วก็พังลงๆ ด้วยเพราะไม่มีฐาน ฉะนั้น การปฏิรูปประเทศไทย คือการกลับรูปประเทศใหม่ สร้างฐานประเทศให้กว้าง แข็งแรง”ศ.นพ.ประเวศกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้การจัดสมัชชาปฏิรูประดับชาติ ครั้งที่ 2 "เพิ่มพลังพลเมือง สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ" ปีนี้นั้นคณะทำงานมีมติให้กำหนดระเบียบวาระ จำนวน 6 ระเบียบวาระเข้าร่วมในการประชุมใหญ่ ดังนี้ 1.การปฏิรูประบบแรงงานและสวัสดิการ : การเพิ่มอำนาจต่อรอง ของแรงงาน การปรับโครงสร้างค่าจ้าง การเพิ่มผลิตภาพและการคุ้มครองแรงงาน 2.การปฏิรูประบบเกษตรกรรม : เพื่อความเป็นธรรมและความมั่นคงทางอาหาร 3.การปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ สู่การปรับดุลอำนาจที่เหมาะสมระหว่างรัฐบาลกับชุมชนท้องถิ่น 4.การปฏิรูประบบการเมือง : พัฒนาความเข้มแข็งของพลเมืองเพื่อปฏิรูปประเทศไทย 5.การปฏิรูปโครงสร้างและกฎหมายด้านที่ดิน : การบริหารจัดการที่ดิน และ 6.การปฏิรูปการศึกษา : ปรับทิศทางการศึกษาเพื่อสร้างคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม