ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

นักลงทุนญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นไทย

5 มี.ค. 55
13:23
16
Logo Thai PBS
นักลงทุนญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นไทย

ประเทศไทย และญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านการค้าการลงทุน ซึ่งไทยเป็นฐานผลิตสำคัญของญี่ปุ่น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ แต่ปัญหาน้ำท่วมในปีที่ผ่านมา สร้างความบอบช้ำให้กับกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่นอย่างมาก ซึ่งหลายฝ่ายกังวลว่าหากญี่ปุ่นตัดสินใจย้ายฐานลงทุน จะกระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทย

หลังวิกฤตน้ำท่วม ผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐต่างเร่งเดินทางไปยังประเทศญี่ปุ่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน รวมถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้นำฝ่ายค้านที่เพิ่งกลับจากการเดินทางเยือนญี่ปุ่น

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนระหว่างวันที่ 6 - 9 มีนาคมนี้ โดยจะพบหารือกับนายโยชิฮิโกะ โนดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คาดว่าจะชี้แจงถึงแผนการบริหารจัดการ และป้องกันน้ำท่วม เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และร่วมงานสัมมนาที่จัดโดยบีโอไอ เพื่อชี้แจงการฟื้นฟูธุรกิจของธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงแผนบริหารจัดการน้ำในภาพรวม และวันที่ 9 มีนาคม พบหารือกับนักธุรกิจชั้นนำ 9 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นบริษัทรถยนต์

วิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี ทำให้หลายฝ่ายของไทยกังวลว่านักลงทุนญี่ปุ่นจะย้ายฐาน ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย โดยนักลงทุนญี่ปุ่นมีมากถึงร้อยละ 40 ของนักลงทุนต่างชาติ

เซ็ทซึโอ อิอูจิ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าของญี่ปุ่น หรือ เจโทร ระบุว่า แม้จะมีบางบริษัทย้ายฐานไปภูมิภาคอื่น และบางส่วนกลับไปประเทศ แต่ส่วนใหญ่ยังคงดำเนินกิจการในพื้นที่เดิม แต่หวังว่ารัฐบาลจะมีแผนป้องกัน ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญให้การผลิตเข้าสู่ภาวะปกติ

เช่นเดียวกับผู้บริหารบริษัทประดับยนต์สัญชาติญี่ปุ่นที่อยากรับทราบข้อมูลการบริหารจัดการน้ำ เพื่อเป็นข้อมูลตัดสินใจวางแผนรับมือ ทั้งนี้ยังมีบริษัทใหญ่ๆ หลายแห่งประกาศยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน ซึ่งสะท้อนว่ายังเชื่อมั่นศักยภาพของไทย

โคทานิ มาซาฮิโร เจ้าหน้าที่ของ บริษัทฮอกไกโด อินเตอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส เซ็นเตอร์ มองว่าวิกฤตน้ำท่วมไม่ได้ทำให้เป็นปัจจัยที่ทำให้ญี่ปุ่นย้ายฐาน เพราะไทยมีศักยภาพด้านเศรษฐกิจ และขณะนี้ยังไม่มีประเทศไหนแทนที่ไทยได้

นายสุรินทร์ พิศสุวรรณ เลขาธิการอาเซียนชี้ว่าอาเซียนจะกลายเป็นฐานการผลิตสำคัญของโลก หลังการรวมตัวเป็นประชาคมเศรษฐกิจในปี 2558 ซึ่งญี่ปุ่นกำลังมองหาโอกาสทางการลงทุน การย้ายฐานของบริษัทใหญ่จึงเป็นไปได้ยากกว่าบริษัทเล็กๆ

จากการประมวลความเห็นหลายฝ่ายจะเห็นว่านักลงทุนญี่ปุ่นยังเชื่อมั่นศักยภาพของไทย แต่สิ่งที่นักลงทุนต้องการมากที่สุด คือความชัดเจนในแผนบริหารจัดการน้ำ ทั้งนี้ ในอนาคต ไทยคงต้องยอมรับการย้ายฐานของนักลงทุนบางส่วนที่แสวงหาค่าจ้างราคาถูก ซึ่งไทยควรมียุทธศาสตร์รับมือ ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ฐานการผลิตอีกต่อไป
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง