ลีลาโพสต์ท่าไม่แพ้นางงามผู้ใหญ่ของผู้สมัครตัวน้อย ตัดกับภาพการลุ้นและเชียร์ของผู้ปกครองที่แสดงความตื่นเต้นด้านข้างเวที สิ่งนี้คือบรรยากาศชินตาในงานประกวดนางงามเด็ก กิจกรรมที่ผู้ปกครองชาวอเมริกันไม่น้อยให้การสนับสนุน จนปัจจุบันมีการจัดงานประกวดนางงามเด็กในสหรัฐถึงปีละ 5,000รายการ คิดเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าถึงปีละ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เลยทีเดียว
เพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จบนเวทีประกวดความงาม เด็กหญิงมากมายต้องอุทิศตัวเพื่อมาตรฐานความงามที่ผู้ใหญ่เป็นผู้กำหนด บ่อยครั้งนำมาซึ่งเสียงวิจารณ์เรื่องความไม่เหมาะสม ทั้งการถูกจับให้แต่งกายเน้นความวาบหวิวกำจัดขนบนใบหน้าและลำตัวเพื่อความเปล่งปลั่ง บังคับให้เด็กกิน pageant crack ซึ่งของหวานแคลอรีสูง และดื่ม Go Go Juice น้ำอัดลมชูกำลัง เพื่อเพิ่มความกระฉับกระเฉงเมื่ออยู่บนเวที
ตลอดจนต้องยอมเจ็บเพื่อรับการฉีดสเปรย์ช่วยให้ผิวแทน ซึ่งเป็นสีผิวที่ได้รับการความนิยมในเวทีประกวดของสหรัฐ ซึ่งการเสพติดความงามของเด็กๆ และผู้ปกครองในแวดวงการประกวดนางงาม สร้างความกังวลให้กับหลายฝ่าย
ศ.ฮิลารี เลวีย์ ไฟรด์แมน นักสังคมวิทยาและผู้เชี่ยวชาญวงการนางงาม ย้ำถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นต่อนางงามเด็กเมื่อพวกเธอโตเป็นผู้ใหญ่ ทั้งนิสัยการลดน้ำหนักด้วยการอดอาหาร ที่อาจนำไปสู่ความผิดปกติด้านการกิน จนถึงโรคดิสมอร์เฟีย หรือโรคผู้ป่วยหมกมุ่นว่าตนมีรูปร่างผิดปกติกว่าคนทั่วไป
ปัจจุบัน มีเด็กหญิงอมริกันเข้าสู่โลกของการประกวดนางงามเด็กถึง 2.5 แสนคน แต่ปัจจุบันยังไม่มีกฏหมายออกมาคุ้มครองสิทธิให้เด็กโดยตรง เนื่องจากการประกวดนางงามไม่จัดอยู่ในประเภทของการทำงาน ทำให้กฎหมายแรงงานเด็กไม่ครอบคลุมวงการนางงามเด็ก มีเพียงการออกมาตรการเฝ้าระวังอันตรายจากการเสริมสวยในเยาวชน
โดยเดือน ธ.ค. 2558 ที่ผ่านมา องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ สั่งห้ามไม่ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ใช้บริการ tanning beds หรือเตียงอบผิวแทน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ผู้ปกครองนิยมให้เด็กที่ประกวดนางงามเข้าไปนอนเพื่อทำให้ผิวมีสีแทน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีส่วนกระตุ้นให้เกิดโรคมะเร็งและมะเร็งผิวหนังเมื่อพวกเขาโตขึ้น
ขณะที่ ประเทศฝรั่งเศสได้สั่งแบนการประกวดนางงามเด็ก ส่วนเมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กในรัสเซีย แจ้งค่าปรับเป็นเงินสูงถึง 1 ล้านรูเบิล สำหรับผู้ที่จัดงานประกวดนางงามเด็ก เพราะมองว่าเป็นงานที่นำเยาวชนมาแสดงออกทางเพศอย่างไม่เหมาะสม