ผบ.สส.ชี้ใต้มีกลุ่มแสวงหาประโยชน์จากกลุ่มผู้ค้าอาวุธ - ยาเสพติด
นอกจากความเห็นที่นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวกรรม ภรรยา พล.อ.ร่วมเกล้า ธุวกรรม ย้ำให้รัฐบาลคำนึงถึงจิตใจของคนกรุงเทพฯที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมทางการเมืองแล้ว ยังเห็นว่ารัฐบาลควรทบทวนความเป็นธรรมให้กับทุกฝ่ายด้วย โดยเฉพาะการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมกันนั้นก็ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ผ่าน พล.อ.อรุณ สมตน ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ให้ติดตามความคืบหน้าในคดี เพื่อหาผู้กระทำผิด หลังจากเหตุการณ์ผ่านมาเกือบ 2 ปี แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
สำหรับผลการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เปิดเผยว่า มีการเน้นย้ำการปฏิบัติงานของทุกเหล่าทัพ เพื่อสนับสนุนงานของรัฐบาลทั้งการแก้ปัญหาอุทกภัย, ยาเสพติด, อาชญากรรมข้ามชาติ และป้องกันการก่อการร้าย พร้อมย้ำกองทัพมีแนวทางการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์แบบรวมการทุกเหล่าทัพให้มากที่สุด เพื่อสอดคล้องกับงบประมาณ และความพร้อมรบของทุกเหล่าทัพ แต่หากโครงการใดไม่ผ่านขั้นตอนการอนุมัติ ก็มีแผนรองรับต่อไป
ผู้บัญชาการทหารสูงสุดยังระบุถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่มีการตั้งคณะกรรมการร่วมไทย - กัมพูชา หรือ เจดับเบิ้ลยูจี เพื่อดูแลและพัฒนาร่วมกันแล้ว ส่วนสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นไปตามกรอบการทำงานของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. และพบว่าปัญหาในพื้นที่เชื่อมโยงหลายเรื่องทั้งยาเสพติด และกลุ่มค้าอาวุธสงคราม โดยมีกลุ่มแสวงผลประโยชน์ออกมาเคลื่อนไหว
ขณะที่วันนี้ ครม. ห็นชอบให้ขยายเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และยังคงบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคม ถึง 19 มิถุนายน ปี 2555 ในพื้นที่จังหวัดยะลา, นราธิวาส และปัตตานี ยกเว้นอำเภอแม่ลาน