สำรวจปัญหาขายบริการ พบเด็กต่างชาติ จากเพื่อนบ้านส่งผ่าน
ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา รายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ประเทศไทย พ.ศ. 2554-2555 พบ สถานการณ์การบังคับใช้แรงงานภาคประมง ร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากถูกล่อลวงและบังคับให้ทำงานโดยไม่สมัครใจ ตลอดจนถูกละเมิดสิทธิ กว่า 40 กรณี ลักษณะการล่อลวงและการบังคับใช้แรงงานยังคงเป็นไปในรูปแบบไม่ต่างจากอดีต
ส่วนปัญหาเรื่องการค้าประเวณีเด็กต่างชาติ ทำให้พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย กลายเป็นพื้นที่ทางผ่านและพื้นที่ปลายทางของการค้ามนุษย์ ลักษณะของสภาพปัญหามีการนำเด็กจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศลาวเข้ามาค้าประเวณีบริเวณชายแดนและจังหวัดใกล้เคียงในรูปแบบของซ่องและร้านคาราโอเกะ
โดยจังหวัดชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง ยังเป็นทางผ่านให้ “นักล่าประเวณีเด็ก”จำนวนมาก ข้ามแดนเข้าไปซื้อบริการทางเพศเด็กในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยเฉพาะด้านจังหวัดหนองคาย มุกดาหาร สุรินทร์ และศรีสะเกษ
ด้านปัญหาการค้ามนุษย์ โดยการนำเด็กมาเป็นเครื่องมือในการขอทานยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะเด็กขอทานต่อหนึ่งคนสามารถหาเงินได้ตั้งแต่ 300 บาทถึง 1,000 บาทขึ้นไป ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ขบวนการค้ามนุษย์จะพยายามเคลื่อนย้ายเด็กเข้ามาขอทานในประเทศไทย แม้ว่าจะถูกจับกุมและส่งกลับไปประเทศต้นทางหลายครั้งแล้วก็ตาม
นอกจากนี้ยังพบปัญหาสำคัญ คือ ครอบครัวชาวกัมพูชาที่เคยเดินทางเข้าประเทศไทยมากับขบวนการนายหน้าในครั้งแรกแล้วถูกจับกุมผลักดันกลับประเทศไป จะนำลูกหลานของตัวเองเข้ามาขอทานในประเทศไทยอีกครั้ง โดยเดินทางเข้ามาด้วยตนเอง นอกจากนี้เมื่อมีความชำนาญ จะเริ่มชักชวนคนในชุมชนมาขอทานในประเทศไทย กลายเป็นการผันตัวเองเป็นนายหน้านำพาเด็กมาขอทานอีกทอดหนึ่ง