รพ.จุฬา ร่วมกับหลายหน่วยงานเตรียมบริจาคภาชนะหุงต้มให้ชาวกะเหรี่ยง จ.ตาก
ชาวกะเหรี่ยงในอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก กว่า 200 คน ยังคงใช้ หม้อแขกและกระทะยังคงถูกใช้สำหรับปรุงอาหาร แม้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดพิษณุโลก จะยืนยันว่าเป็นแหล่งที่มาของสารตะกั่ว ที่ปนเปื้อนในร่างกายของเด็กๆ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข บ้านแม่กลองน้อย ตำบลโมโกร อำเภออุ้มผาง ต้องเร่งให้คำแนะนำแก่ชาวบ้าน ถึงอันตรายจากการใช้ภาชนะปรุงอาหารที่ไม่มีคุณภาพ พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทุกพื้นที่ในอำเภออุ้มผาง ได้รับคำสั่งให้สุ่มตรวจเลือดกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กแรกเกิด ถึงอายุ 15 ปี เพื่อตรวจสอบว่ามีสารตะกั่วในเลือดมากน้อยแค่ไหน เพราะจะส่งผลกระทบกับพัฒนาการ และ ระดับสติปัญญา
น.พ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผางจังหวัดตาก ระบุว่า ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ว่า ทางโรงพยาบาลร่วมกับสภากาชาดไทย และบริษัทเอกชน จะบริจาคภาชนะหุงต้มใหม่ให้แก่ประชาชนในอำเภออุ้มผาง ที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารตะกั่ว เบื้องต้นได้สรุปตัวเลขความต้องการเร่งด่วน รวม 8,400 ครัวเรือน ประกอบด้วย ชาวกะเหรี่ยง ชาวบ้านตามแนวชายแดน และศูนย์เด็กเล็ก
นอกจากนี้ยังจะช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่ผู้ป่วยที่ประสบปัญหาสารตะกั่วตกค้างในร่างกาย ซึ่งจะต้องใช้ยาที่มีราคาค่อนข้างสูงในการรักษา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง ยังระบุอีกว่า ทุกภาคส่วนต้องเร่งแก้ปัญหาสารตะกั่วตกค้างในร่างกาย เพราะเชื่อว่ายังมีประชาชนกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมาก เพราะภาชนะที่มีปัญหามีการใช้แพร่หลายในกลุ่มชาวบ้านที่มีฐานะยากจน แม้จะได้ชี้แจงถึงความเสี่ยงแก่ผู้นำท้องถิ่นไปแล้วก่อนหน้านี้