ชาวบ้านใน อ.อุ้มผาง จ.ตาก เรียกร้องให้ภาครัฐตรวจร่างกายหา
ภาชนะหุงต้มแบบอลูมีเนียมที่ผลิตจากประเทศเพื่อนบ้านและไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานยังคงถูกใช้ตามแนวชายแดน พื้นที่อำเภออุ้งผาง จังหวัดตาก แม้สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จะสรุปผลการตรวจสอบว่า ภาชนะเหล่านี้มีสารตะกั่วปนเปื้อนในปริมาณสูง และเป็นสาเหตุให้เด็กในตำบลอุ้มผาง และ ตำบลแม่จัน มีปริมาณสารตะกั่วในเลือดสูงซึ่งส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ
หน่วยงานท้องถิ่น ยอมรับว่า ชาวบ้านยังคงใช้ภาชนะเหล่านั้นเพราะมีฐานะยากจนทำให้ไม่มีทางเลือกอื่นแต่กังวลถึงผลกระทบต่อสุขภาพ จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจร่างกายชาวบ้านทั้งในเขตเทศบาล และ พื้นที่รอบนอกทุกแห่งว่ามีสารตะกั่วในร่างกายเกินมาตรฐานหรือไม่
นพ.วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จังหวัดตาก ระบุว่า ภาชนะหุงต้มที่ไม่มีคุณภาพใช้แพร่หลายในกลุ่มชาวบ้านที่มีฐานะยากจนจึงยังมีชาวบ้านในกลุ่มเสี่ยงอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรณีโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ร่วมกับสภากาชาดไทย และบริษัทเอกชนจะบริจาคภาชนะหุงต้มใหม่ให้ชาวบ้านในอำเภออุ้มผางที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารตะกั่ว รวม 8,400 ครัวเรือน คาดว่า ต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาทและหากต้องเปลี่ยนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนทั้งหมด อาจต้องใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท