ประชุม ครม.สัญจรใต้ครั้งแรก ที่ภูเก็ต วันนี้ (19 มี.ค.)
วาระการประชุม คณะรัฐมนตรีสัญจร ที่จังหวัดภูเก็ตในวันนี้และวันพรุ่งนี้ มีรายงานว่า จะมีการพิจารณาอนุมัติหลักการเมกะโปรเจกต์ อาทิ การขยายถนนเพชรเกษม เป็น 4 เลน จากจังหวัดชุมพรถึงพังงา มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท การขยายรถไฟรางคู่ จากอำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี เชื่อมต่อไปที่อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา และมาเชื่อมต่อกับสะพานสารสิน เพื่อการขนส่ง รวมระยะทาง 160 กิโลเมตร ด้วยงบกว่าหมื่นล้านบาท และโครงการทำเมืองพังงาให้เป็นเมืองแห่งการศึกษา ด้วยการเปิดมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตพังงา ตั้งงบไว้ 4,000 ล้านบาท และมีทุนจากที่ดินบริจาคแล้ว 300 ไร่ โดยโครงการที่รัฐบาลวางไว้ สอดคล้องกับที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน เสนอพัฒนาเมกะโปรเจกต์ด้านโลจิสติกส์ แต่คาดหวังให้ขยายถนนเพชรเกษม ไปไกลถึงจังหวัดสตูล และพัฒนาระบบรถไฟรางคู่ ไปสิ้นที่สุไหงโก-ลก เพื่อพัฒนากลุ่มจังหวัดอันดามันอย่างกว้างไกลขึ้น
ด้าน นายยุทธพร อิสรชัย คณบดีภาควิชารัฐศาสตร์ มสธ. วิเคราะห์ว่า เหตุผลรัฐบาลเลือกประชุมครม. สัญจรในพื้นที่ภาคใต้ อาจเป็นเป้าหมายของการขยายฐานเสียงทางการเมือง จากระดับท้องถิ่น สู่ระดับชาติ และน่าจะเทียบเคียงการเติบโตทางการเมืองจากกาฬสินธุ์ หรือ ชัยภูมิ โมเดล ซึ่งการเมืองท้องถิ่นเป็นปัจจัยหลักให้ได้ ส.ส.ยกจังหวัด และมั่นใจว่ายุทธศาสตร์กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ด้วยสมาชิก คือปัจจัยหลักของการเจาะฐานคะแนนให้พลิกมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทย หลังพบว่าสมาชิกองทุนฯ ในจังหวัดกระบี่ พังงา และภูเก็ต มากที่สุดในภาคใต้
ขณะที่ พล.ต.ต.พิสัณห์ จุลดิลก รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ประชุมซักซ้อมความพร้อมการปฏิบัติการรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรในการประชุมครม.สัญจร โดยให้แต่ละหน่วยงานนำเสนอแผนปฏิบัติการ "ตาปี 14/2555" ซึ่งอิงตามแผนรักษาความปลอดภัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ แผนกรกฎ 52 ส่วนสถานที่ที่ใช้จัดประชุม คือ มหาวิทยาลัยสงขลานครรินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต มีการปรับปรุงอาคารสำนักอธิการบดี 5 ชั้น เพื่อใช้เป็นห้องรับรองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะรัฐมนตรี คณะสื่อมวลชน ห้องแถลงข่าวผลการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ตั้งของกองอำนวยการทหาร ตำรวจ และการลงทะเบียนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม