กรมอุทยานฯ จับลักลอบค้าสัตว์ป่าย่านบางบัวทอง ได้ของกลางเป็นนกกว่า 600 ตัว
นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช บอกว่า ทางกรมอุทยานฯ มีนโยบายเข้มงวดจัดการกับผู้ค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายมาตั้งแต่ช่วงต้นปี เช่นที่ตลาดนัดสวนจตุจักร มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบทุกวัน จนตอนนี้ไม่มีการค้าสัตว์ที่ผิดกฎหมายแล้ว ขณะที่ ช่วงนี้ก็เพิ่มความเข้มงวดกับผู้ค้านก โดยเฉพาะบริเวณหน้าวัด และสถานที่แก้บน ที่มีปัญหาลักลอบจับนกกระติ๊ด ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 มาขายเพื่อปล่อยทำบุญ โดยพบว่า กลุ่มพ่อค้าจะตามไปจับนกกลับมาขังในกรง วนเวียนขายให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ซึ่งเป็นการทรมานสัตว์ และส่งเสริมให้จับนกธรรมชาติอย่างผิดกฎหมาย
มาตรการนี้ได้เริ่มนำร่องที่วัดหัวลำโพง และสี่แยกราชประสงค์แล้ว สามารถจับนกกระติ๊ดที่ถูกนำมาขังได้เกือบ 1,000 ตัว ซึ่งหลังจากนี้จะขยายการตรวจตราไปยังพื้นที่อื่นๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด เช่น ที่บริเวณศาลหลักเมือง วัดเบญจมบพิตร และบริเวณหน้าวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, จังหวัดสิงห์บุรี, จังหวัดชัยนาท และจังหวัดฉะเชิงเทรา
ขณะที่ล่าสุด เมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และตำรวจภูธรบางบัวทอง กว่า 50 นาย มีการนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครองที่ตลาดสมบัติบุรี อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนว่า ตลาดดังกล่าว มีการแอบลักลอบจำหน่ายนกชนิดต่างๆ ที่เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองหายากให้กับลูกค้าเป็นจำนวนมาก
ซึ่งจากการตรวจค้นภายในตลาดดังกล่าวบริเวณโซนขายสัตว์เลี้ยง เจ้าหน้าที่พบนกปรอทหัวโขน จำนวน 643 ตัว นกซออู้ 11 ตัว และนกแก้ว 5 ตัว ถูกขังอยู่ในกรง ซึ่งเมื่อผู้ค้าเห็นเจ้าหน้าที่ก็รีบวิ่งหนีออกจากร้านไป โดยนกทั้งหมดนั้นเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ซึ่งผู้ครอบครองต้องโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับเป็นเงินไม่เกิน 40,000 หมื่นบาท จึงได้ทำการตรวจยึดนกทั้งหมดส่งไปยังสถานีเพราะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง จังหวัดชลบุรี