ทางการฝรั่งเศสจับตายคนร้ายฆ่า 7 ศพหลังดวลปืนกับตำรวจ
ตำรวจหน่วยคอมมานโดได้ตัดสินใจบุกเข้าไปภายในอพาร์ทเม้นต์ที่นายโมฮัมเหม็ด เมราห์ใช้เป็นที่หลบซ่อนและได้เกิดการดวลปืนกันอย่างสนั่นหวั่นไหวไปทั่วเมืองตูลูส ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส หลังปิดล้อมข้ามวันนานถึง 32 ชั่วโมง เมื่อเข้าไปในห้องพัก ชุดคอมมานโดไม่พบคนร้ายจึงค่อยๆ คืบคลานไปที่ห้องน้ำซึ่งนายโมฮัมเหม็ดได้พุ่งตัวออกมาพร้อมกับระเบิดกระสุนปืนมากกว่า 30 นัดเพื่อเปิดทางไปยังหน้าต่าง โดย ณ เสี้ยววินาทีนี้ ชุดซุ่มยิงหรือสไนเปอร์ได้ลั่นกระสุนเข้าใส่ศีรษะนายโมฮัมเหม็ด
อัยการในฐานะพนักงานสอบสวนของฝรั่งเศสแถลงในเวลาต่อมาว่า นายโมฮัมเหม็ด ยังคงยิงปืนขณะที่ร่วงลงมาจากหน้าต่างจนกระทั่งร่างกระแทกพื้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเผยว่าไม่เคยพบการขัดขืนมากขนาดนี้ โดยเหตุการณ์นี้มีตำรวจได้รับบาดเจ็บไป 2 นาย
จากการที่ปิดล้อมอยู่เนิ่นนานนั้น อัยการฝรั่งเศสให้เหตุผลว่า ทีแรกนายโมฮัมเหม็ดบอกจะมอบตัวแต่ได้เปลี่ยนใจภายหลังพร้อมกับประกาศว่าจะยิงทุกคนที่เข้ามาจับ โดยการเข้าตรวจค้นห้องพักหลังเหตุการณ์ ตำรวจพบปืนอีกหลายกระบอก รวมถึงอุปกรณ์ทำระเบิดเพลิง
นายโมฮัมเหม็ด เป็นชาวฝรั่งเศสเชื้อสายแอลจีเรียอายุ 23 ปี ซึ่งระหว่างถูกปิดล้อมเขาได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับสื่อมวลชนหลายแขนงโดยยอมรับว่า เป็นคนฆ่าทหารพลร่ม 3 นาย และอีก 10 วันต่อมาจึงบุกฆ่าครู และนักเรียนเชื้อสายอิสราเอลรวม 4 คน ทั้งนี้นายโมฮัมเหม็ดอ้างหลายเหตุผลทั้งแก้แค้นให้กับชาวปาเลสไตน์ และไม่พอใจที่ฝรั่งเศสส่งทหารไปแทรกแซงต่างชาติ รวมถึงห้ามสตรีมุสลิมสวมผ้าคลุมหน้า
นายโมฮัมเหม็ด อ้างด้วยว่า ได้รับการฝึกจากกลุ่มอัลกออิดะห์ในปากีสถาน และขณะถูกปิดล้อมก็ยังยืนยันว่าจะก่อเหตุอีก โดยวิดีโอถ่ายเองนี้เป็นเหตุการณ์เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งนายโมฮัมเหม็ดเป็นช่างยนต์ฝึกหัด ด้านประธานาธิบดีนิโกลาส์ ซาร์โกซีแถลงภายหลังเหตุการณ์ โดยระบุว่า ได้พยายามทางอื่นมาทุกวิธีแล้ว จึงจำเป็นต้องกำจัดอสูรร้ายไม่ให้ไปฆ่าใครอีก