โพลชี้ประชาชน 70% ไม่รู้จัก
นายจะเด็จ เชาวน์วิไล ผู้อำนวยการมูลนิธิหญิงชายก้าวไกล เปิดเผยว่า จากการสำรวจความคิดเห็นต่อกรณีการจัดตั้งกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีในพื้นที่ 10 จังหวัด ทั้ง 4 ภูมิภาคจากกลุ่มตัวอย่าง1,000 ราย แบ่งเป็นเพศหญิง 71% เพศชาย 29% อายุระหว่าง 15-61 ปี พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 29.3% ทราบข้อมูล แต่อีกกว่า 70.7% ยังไม่ทราบข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่ากลุ่มผู้หญิง 52.6% ต้องการสมัครเป็นสมาชิกกองทุนโดยให้เหตุผลว่าต้องการพัฒนาบทบาทสตรี ต้องการมีส่วนร่วมและได้รับประโยชน์จากกองทุน ส่วนอีก 47.4% ไม่ต้องการสมัคร โดยให้เหตุผลว่าไม่มีเวลาและอายุมากแล้ว
"แต่ที่น่าห่วงคือกลุ่มตัวอย่าง 73.2 % ยังไม่มีข้อมูลและยังไม่ทราบถึงวิธีและการขอสนับสนุนงบประมาณ มีเพียง 26.8% เท่านั้นที่รู้วิธีเข้าถึงงบประมาณกองทุน"นายจะเด็จ กล่าว
นายจะเด็จ กล่าวว่า กลุ่มตัวอย่าง 49.5% ต้องการของบประมาณเพื่อนำเงินกองทุนมาพัฒนาสตรีในด้านการยุติความรุนแรง รณรงค์เลิกสุรา ตลอดจนนำไปใช้พัฒนาอาชีพเพื่อสร้างรายได้ แต่อีก 50.5% ไม่ต้องการของบประมาณเนื่องจากไม่ทราบข้อมูลและรายละเอียดการเข้าถึงกองทุน
ขณะเดียวกัน กลุ่มตัวอย่างมากถึง 98% ต้องการให้กองทุนเกิดการตรวจสอบ และมีการจัดตั้งคณะกรรมการ หรือองค์กรกลางตรวจสอบอีกด้วย
น.ส.อรุณี ศรีโต นายกสมาคมส่งเสริมสิทธิชุมชนเพื่อการพัฒนา กล่าวว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือวัตถุประสงค์ในการตั้งกองทุนนั้นดีแต่ในขั้นตอนปฎิบัติจะทำอย่างไรให้ได้คณะกรรมการระดับหมู่บ้านและชุมชนที่เป็นผู้ทำงานด้านสตรีอย่างแท้จริง ไม่ใช่เลือกผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมืองซึ่งไม่ได้ให้ความสนใจเรื่องนี้
"กองทุนนี้ต้องขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ ฉะนั้นการทำงานในพื้นที่ต้องเข้มแข็ง และการประชาสัมพันธ์ควรจะมีมากกว่านี้เพื่อให้ข้อมูลกองทุนเข้าถึงชาวบ้านจริงๆ เท่าที่สัมผัสมา มีคนมาชวนให้สมัครสมาชิก แต่พอถามว่าเป็นแล้วดีอย่างไรก็ตอบไม่ได้ ตอบแค่ว่าสมัครๆไปก่อนแล้วกัน"น.ส.อรุณี กล่าว
น.ส.สุรินทร์ พิมพา ประธานสหภาพแรงงานกิจการสิ่งทอนครหลวง กลุ่มสหภาพแรงงานอ้อมน้อย-อ้อมใหญ่ กล่าวว่า ยังมีข้อสงสัยว่ากลุ่มแรงงานหญิงจะสามารถเข้าร่วมกองทุนได้หรือไม่ เนื่องจากแรงงานหญิงส่วนใหญ่ไม่ได้ย้ายทะเบียนบ้าน ดังนั้นจะมีส่วนร่วมในการเข้าถึงกองทุนได้อย่างไร
น.ส.วันเพ็ญ สุวรรณวิสิฏฐ์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความเสมอภาคชายหญิง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า เตรียมของบประมาณ 200 ล้านบาทในปี 2556 เพื่อนำมาฝึกอบรมสตรีให้เขียนโครงการและของบประมาณเป็น