งานศิลปะที่หลากหลายมากขึ้นในดูไบ
ผลงานภาพจาก Mohamed El Baz ศิลปินชาวโมรอคโค เป็นภาพนักการเมืองที่ใบหน้าถูกแทนที่ด้วยเปลวเพลิงมอดไหม้ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์อาหรับสปริง ภาพเขียนของ Abdul Qader Al Rais ศิลปินชื่อดังของดูไบ ถ่ายทอดจากการสังหารหมู่ในเมืองฮามาของซีเรียเมื่อ 30 ปีก่อน หรือม้วนกระดาษหลากสีสัน บรรจุคำว่ารักเป็นภาษาฟาร์ซีเขียนด้วยมือของ Hadieh Shafie ศิลปินสาวชาวอิหร่าน สื่อถึงความรักที่ต้องอาศัยความอดทนและมุ่งมั่นกว่าจะสำเร็จเป็นผลงานขนาดใหญ่ และงดงาม ส่วนหนึ่งของผลงานศิลปะในงาน Art Dubai ครั้งที่หก ที่เริ่มมีความหลากหลายและซับซ้อนมากขึ้นทั้งวิธีการสร้างสรรค์ และเนื้อหา หลังจากหลายปีที่ผ่านมาผลงานส่วนใหญ่มีเนื้อหาค่อนข้างเรียบง่ายเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
ปรากฏการณ์อาหรับสปริงปีที่ผ่านมา มีผลให้ประชาชนกล้าแสดงออกทางการเมืองมากขึ้นไม่เว้นแม้แต่ในวงการศิลปะ ซึ่ง Antonia Carver ผู้อำนวยการจัดงานบอกว่า ศิลปินชาวตะวันออกกลางรุ่นใหม่เริ่มให้ความสนใจต่อความเป็นไปของสังคมโลก และคิดถึงปัญหาสังคมในประเทศตัวเอง มากกว่าหาเอกลักษณ์ในความเป็นชาติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาในผลงาน เช่น Marya Kazoun ศิลปินชาวเลบานอน สร้างงานศิลปะจัดวางขนาดใหญ่จากเศษแก้วโดยมีมนุษย์หิมะสองคนไร้ซึ่งที่อยู่ สะท้อนวิกฤตโลกร้อนที่นับวันยิ่งสาหัส
ภาพลักษณ์ความเป็นเมืองท่าทางธุรกิจที่สำคัญ ทำให้ที่ผ่านมางาน ArtDubai ถูกมองว่าเป็นเพียงทางผ่านของนักซื้อขายศิลปะทั่วโลก แต่ความมุ่งหวังจะให้งานนี้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางแห่งงานศิลปะเอเชีย ทำให้ผู้จัดงานหันมาเอาใจใส่ศิลปินในภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งปีนี้มีศิลปินมาร่วมกว่า 500 คน ราวครึ่งหนึ่งเป็นศิลปินจากโลกอาหรับ แม้งานนี้การค้าขายจะโดดเด่นมากกว่าการเดินพิจารณาคุณค่าของผลงาน แต่หลายประเทศในเอเชียอย่างจีน อินโดนีเซีย หรือปากีสถาน ก็มองว่าตะวันออกกลางคือพื้นที่ใหม่ ที่จะช่วยให้ศิลปินร่วมสมัยของเอเชียเป็นที่รู้จักมากกว่าเดิม