วันนี้ (25 ม.ค.2559) เวลา 10.30 น. ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความและผู้รับมอบอำนาจ ได้ยื่นขออุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด ในคดีที่ชาวบ้านจาก 8 จังหวัดริมแม่น้ำโขงได้ยื่นฟ้อง 5 หน่วยงานรัฐ รวมทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
นางสาว ส.รัตมณี กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีตัวอย่างสำหรับคดีข้ามพรมแดนอื่น ๆ ซึ่งจะเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ซึ่งศาลสามารถที่จะออกแนวปฏิบัติโดยใช้คำพิพากษาเป็นแนวทางในการคุ้มครองปัญหาผลกระทบข้ามพรมแดนได้ ซึ่งเชื่อว่าศาลปกครองสูงสุดจากที่เคยวินิจฉัยรับคำฟ้องไว้ได้เห็นปัญหานี้ การมายื่นอุทธรณ์จึงมีความหวังที่จะเห็นคำพิพากษาที่มีความก้าวหน้าในการคุ้มครองปัญหาผลกระทบข้ามพรมแดน
น.ส.ฐาปณี เมืองโคตร หนึ่งในผู้ฟ้องคดี จากบ้านป่งขาม ต.ป่งขาม อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร กล่าวว่า ยังมีความหวังและมั่นใจว่าศาลจะเป็นที่พึ่งของประชาชนและให้ความเป็นธรรมกับประชาชนลุ่มน้ำโขง เนื่องจากเชื่อในคำสั่งของศาลปกครองสูงสุดที่รับฟ้องเมื่อเดือน มิ.ย.2557 และมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม
น.ส.ฐาปณี กล่าวว่า สวนไผ่เลี้ยงริมน้ำโขงของตนเองได้รับผลกระทบจากความผันผวนของระดับน้ำโขงมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการสร้างเขื่อนแม่น้ำโขงตอนบนในประเทศจีน โดยน้ำขึ้น -ลงผิดปกติ ทำให้ตลิ่งพังสูญเสียที่ดินริมแม่น้ำไปแล้ว 2-3 ไร่ เช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกพืชผักริมโขงยิ่งเสียหายหนักกว่านี้ โดยปลูกผักไว้น้ำก็บ่าลงมาท่วมผิดฤดู
"ในเดือนที่ผ่านมาระดับน้ำโขงขึ้นๆ ลงๆ อย่างมาก เห็นข่าวว่าจีนกักน้ำในเขื่อน นี่หากสร้างเขื่อนไซยะบุรีเสร็จ อยู่ใกล้พรมแดนไทยที่อำเภอเชียงคาน เพียงร้อยกว่ากิโลเมตร คงจะยิ่งเกิดความเสียหายกับระบบนิเวศและชาวบ้านริมโขงสาหัสมากกว่านี้" น.ส.ฐาปณี กล่าว
ทั้งนี้เนื้อหาส่วนหนึ่งในคำอุทธรณ์ระบุว่า ขอให้ศาลมีคำสั่งกลับคำพิพากษาของศาลชั้นต้น โดยพิพากษาบังคับให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของผู้ฟ้องคดี โดยพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 5 ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และมติของรัฐบาล รวมทั้งการแจ้งข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลอย่างเหมาะสม การรับฟังความคิดเห็นอย่างพอเพียงและจริงจัง การประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และสังคม ทั้งในฝั่งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งจะได้รับผลกระทบจากอันตรายข้ามพรมแดน ก่อนจะดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับการจัดซื้อไฟฟ้าจากโครงการเขื่อนไซยะบุรี
นอกจากนี้ในคำอุทธรณ์ยังระบุว่า คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ของสหประชาชาติ ได้มีการตั้งคำถามกับรัฐบาลไทยเกี่ยวกับปัญหาข้ามพรมแดนนี้ และมีการยกประเด็นเขื่อนไซยะบุรี ว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหานี้อย่างไร