วันนี้ (28 ม.ค.2559) ที่งานมอบตำแหน่งประธานหอการค้าไทย-จีนคนใหม่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องทิศทางเศรษฐกิจโลก ว่า ไทยและจีนได้ทำการค้าร่วมกันเป็นระยะเวลานาน จึงต้องมีการพัฒนาเส้นทางรถไฟไทย-จีนร่วมกัน เพื่อให้เป็นเส้นทางยุทธศาตร์การค้าและการขนส่งผู้โดยสาร ส่วนความคืบหน้าของโครงการ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางไปยังจีนในวันนี้ เพื่อประชุมโครงการรถไฟไทย-จีน ครั้งที่ 10 และทำข้อตกลงร่วมกันให้ชัดเจน ซึ่งทางฝ่ายไทยต้องการให้จีนเข้าร่วมในฐานะหุ้นส่วน ไม่ใช่เพียงการลงนามร่วมกันเท่านั้น หากเจรจาในภาพรวม รวมถึงหารือเรื่องอัตราดอกเบี้ยแล้วเสร็จไม่เกินเดือนมีนาคมปีนี้ ก็จะเร่งจัดตั้งบริษัทร่วมทุนของสองประเทศเพื่อเร่งการก่อสร้างให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยรัฐบาลต้องการให้หอการค้าไทย-จีน เป็นตัวกลางในการสานสัมพันธ์ไทย-จีน ให้การเจรจาโครงการรถไฟไทย-จีน เป็นไปอย่างราบรื่น
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้สิ่งที่ไทยต้องเร่งดำเนินการ คือการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและเศรษฐกิจในเมือง เพราะคนกลุ่มนี้มีจำนวนถึง 30 ล้านคน แต่กลับมีสัดส่วนจีดีพีเพียงร้อยละ 10 รัฐบาลจึงต้องเร่งสนับสนุนกลุ่มคนเหล่านี้ให้มีกำลังซื้อมากขึ้น เช่น การอนุมัติกรอบวงเงิน 35,000 ล้านบาทในโครงการเพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากตามแนวประชารัฐ ซึ่งจะดำเนินผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ