ชาวบ้านระดับรากหญ้า หวังได้ผู้แทนที่ต่อสู้เพื่อชาวบ้าน หลังเลือกตั้งพม่า

การเลือกตั้งของพม่าในครั้งนี้ แม้จะเป็นเพียงการเลือกตั้งซ่อม แต่ก็มีความสำคัญต่ออนาคตของชาวพม่า แม้แต่ชาวบ้านในระดับรากหญ้ายังต้องการมีส่วนร่วม ด้วยความหวังว่าจะได้ผู้แทนที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของมวลชน

หมู่บ้านวาห์ ทิน คา ซึ่งอยู่ห่างจากนครย่างกุ้งประมาณ 40 กิโลเมตร กลายเป็นจุดสนใจของสื่อมวลชน แม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตชนบท หลังจาก นางออง ซาน ซูจี เดินทางมาตรวจเยี่ยมหน่วยเลือกตั้งของหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่ในโรงเรียน โดยหมู่บ้านแห่งนี้มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 900 คน และส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการเมืองน้อยมาก แต่ทุกคนก็ต้องการมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งซ่อมครั้่งประวัติศาสตร์ ด้วยความหวังที่ว่าผู้สมัครที่ได้รับเลือกจะเข้าไปต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของมวลชน และอาจได้ก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำประเทศ

นอกจากนี้ผู้ลงคะแนนในแถบพื้นที่ชนบทยังระบุว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ขณะที่ชาวพม่าทั่วประเทศต่างให้ความสนใจติดตามการเลือกตั้งกันอย่างใกล้ชิด ส่วนใหญ่ติดตามรายงานข่าวเลือกตั้งทางโทรทัศน์ ขณะเดียวกัน นายโจ โครว์ลี่ย์ สมาชิกสภาสหรัฐฯ สังกัดพรรคเดโมแครตจากรัฐนิวยอร์ค ซึ่งเป็นผู้ผลักดันร่างมาตรการคว่ำบาตรพม่าระบุว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะผ่อนคลายมาตรการกดดันพม่า แม้จะมีการคาดการณ์ว่านางซูจีรับ จะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมอย่างถล่มทะลาย เนื่องจากยังมีนักโทษการเมืองจำนวนมากที่ถูกคุมขัง และยังคงมีการใช้ความรุนแรงกับชนกลุ่มน้อย ขณะที่กองทัพยังมีอิทธิพลครอบงำรัฐบาลพลเรือน

ด้าน นายออง ดิน อดีตนักโทษการเมือง และหัวหน้ากลุ่มรณรงค์เพื่อพม่าในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ชาติตะวันตกควรรอดูว่านางซูจี และผู้สมัครคนอื่นๆ ของพรรคเอ็นแอลดีที่ได้รับเลือกตั้งจะได้รับการปฎิบัติอย่างไรในสภา โดยสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปยังไม่ควรให้รางวัลใดๆ เป็นสิ่งตอบแทนพม่า เนื่องจากพรรคเอ็นแอลดีได้เข้าไปนั่งในสภาเพียงไม่กี่ที่นั่ง