8 หน่วยงาน ถกกรณี ซูโดอีเฟดรีนหาย บ่ายวันนี้
เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตรวจสอบข้อมูลการเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟดรีน ที่โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 และโรงพยาบาลนวมินทร์ 1 อีกครั้ง เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (2 เม.ย.) หลังพบว่ามีการลักลอบนำยาออกจากโรงพยาบาลประมาณ 650,000 เม็ด และตัวเลขการเบิกจ่ายยา ของ อย.กับบริษัทจำหน่ายยาไม่ตรงกัน
โดยในช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการหารือกันของ 8 หน่วยงาน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ประกอบด้วย อย., กระทวงสาธารณะสุข, ป.ป.ส. , ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ,สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจ และสำนักนิติวิทยาศาสตร์ของกระทรวงยุติธรรม ที่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหลายแห่งเข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวการสอบสวน ในประเด็นการหายไปของยาแก้หวัด ซูโดอีเฟดรีน ส่วนประเด็นการตรวจสอบ การกระทำผิดในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลของรัฐ ที่ดีเอสไอ ตรวจสอบมาอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมน.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านรายจ่ายและหนี้สิน และเจ้าหน้าที่กรมบัญชีกลาง ร่วมกันแถลงความคืบหน้าอีกครั้ง โดยสรุป หลังดีเอสไอลงตรวจสอบ สามารถดำเนินคดีข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องหลายคนขณะนี้เรื่องอยู่ที่ ป.ป.ช. และสามารถทำให้รัฐประหยัดเงินงบประมาณลงกว่า 1,000 ล้านบาทในปี 2554 ซึ่งจากข้อมูลของกรมบัญชีกลางเมื่อปี 2553 รัฐต้องสูญเสียเงินในระบบนี้ไปกว่า 62,000 ล้านบาท
สำหรับการกระทำผิดในระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการและครอบครัวที่ตรวจสอบ มี 3 ประเภท คือการสวมสิทธิ์ โดยอ้างการใช้สิทธิของข้าราชการ การยิงยา คือเจ้าหน้าที่สั่งจ่ายยาที่ไม่เหมาะสมและไม่จำเป็นต่อผู้ป่วย โดยเน้นยานอกบัญชีหลักที่มีราคาแพง หวังผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทผู้ผลิตยาหรือตัวแทนจำหน่ายยา และการช้อปปิ้งยา คือผู้มีสิทธิรักษาพยาบาล ตระเวนเข้ารับการรักษาและเบิกยาตามโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อนำไปจำหน่ายต่อ โดยพบมีความเชื่อมโยงระหว่างผู้ป่วย บุคคลากรทางการแพทย์ ร้านขายยา บริษัทยา