วานนี้ (1 ก.พ.) นายมาร์ซีโล คาสโตร รมว.สาธารณสุข ประเทศบราซิล เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสซิกาเลวร้ายกว่าที่คาด เนื่องจากร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อ รวมทั้งสตรีตั้งครรภ์ ไม่แสดงอาการของโรค และนักวิจัยบราซิลเชื่อว่า ไวรัสซิกาเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กทารกเกิดมาพิการ มีสมองและศีรษะเล็กผิดปกติถึง 3,700 ราย แม้ขณะนี้ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้บราซิลกำลังเร่งกำจัดยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรค โดยพยายามควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ทางการบราซิลยังมีคำสั่งให้รัฐบาลท้องถิ่นเริ่มรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อในสัปดาห์หน้า หลังรัฐส่วนใหญ่มีห้องปฏิบัติการและอุปกรณ์ในการตรวจหาเชื้อไวรัสซิกา และมีรายงานด้วยว่า บราซิลจะไม่รับบริจาคเลือดจากผู้ติดเชื้อไวรัสกา ซึ่งเป็นมาตรการเดียวกับสหรัฐฯ ที่ประกาศใช้ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกหรือดับเบิ้ลยูเอชโอกำลังประชุมร่วมกันในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์ เพื่อร่วมกันพิจารณาว่า จะประกาศให้ไวรัสซิกาเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับโลกหรือไม่ โดยการประกาศภาวะฉุกเฉินดังกล่าว จะช่วยให้นานาชาติรับมือการระบาดของไวรัสซิกาได้อย่างรวดเร็ว หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความลังเลในการรับมือการระบาด ขณะที่เชื้อไวรัสซิการะบาดจากบราซิลเข้าไปในหลายประเทศในแถบละตินอเมริกา