‘ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย’

4 เม.ย. 55
11:47
10
Logo Thai PBS
‘ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย’

นพ.ประเวศ วะวี ประธานกรรมการสมัชชาปฏิรูป ปาฐกถาในเวทีฟื้นพลังชุมชนท้องถิ่นสู่การอภิวัฒน์ประเทศไทย ครั้งที่ 2 หัวข้อ ‘ชุมชนท้องถิ่นคือฐานประเทศ’ โดยกล่าวว่า สิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนการอภิวัฒน์ชุมชนท้องถิ่นคือ วิธีคิด“ชุมชนท้องถิ่นคือฐานของประเทศ ที่ผ่านมาไม่ได้พัฒนารากฐาน เราจึงเกิดปัญหา หากจับจุดนี้ได้ ไม่ช้าก็เร็วประเทศจะมั่นคงยั่งยืน ทั้งนี้ประเทศไทยรวมศูนย์อำนาจต่อไปไม่ได้อีกแล้ว การรวมศูนย์อำนาจร้อยกว่าปีที่ผ่านมา เป็นการดูดซับพลังสร้างสรรค์จากคนไทยและสังคมไทยไปหมด คนไทยมีสมรรถนะน้อยลง มีความขัดแย้งมากขึ้น มีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ มีหลุมดำที่เป็นอุปสรรค ขึ้นจากหลุมดำไม่ได้เป็นเวลากว่าร้อยกว่าปี นั่นก็คือการรวมศูนย์อำนาจ ทำให้ชุมชนท้องถิ่นอ่อนแอ ทำให้เกิดความขัดแย้งรุนแรง  ระบบราชการอ่อนแอ คอร์รัปชั่นเข้มข้น การแย่งชิงอำนาจทางการเมืองรุนแรง เพราะอำนาจรวมศูนย์ รัฐล้มเหลวแก้ปัญหาไม่ได้ รัฐประหารง่าย ไร้ทางออก ไปสู่มิคสัญญียุค”

นพ.ประเวศ กล่าวว่า เมื่อการรวมศูนย์อำนาจทำให้เกิดปัญหาก็ต้องปฏิรูปเสียใหม่ ทำฐานของประเทศให้มั่นคง จากเดิมที่การพัฒนารวมศูนย์อยู่ด้านบนเหมือนรูปปิรามิด ก็ให้กลับรูปปิรามิดเสีย มาพัฒนาที่ฐาน เป็นการอภิวัฒน์ประเทศไทยจากฐานของชุมชนท้องถิ่นทั้งนี้ การพัฒนาจะเกิดขึ้นได้นั้น นพ.ประเวศเปรียบเทียบการพัฒนาว่ามี 2 รูปแบบ คือ มิจฉาพัฒนากับสัมมาพัฒนา,  “มิจฉาพัฒนา” คืออำนาจและมายาคติ มุ่งเน้น กำไร ดอกเบี้ย ค่าเช่า ขณะที่ “สัมมาพัฒนา” คือความจริงของชีวิต การอยู่ร่วมกัน ผลิตอาหาร ผลิตข้าวและของใช้บริการต่างๆ “ข้างบนเป็นเรื่องของมายาคติ”

นพ.ประเวศระบุว่า วิกฤตในอเมริกาหรือยุโรปนั้น แก้ไขไม่ได้เพราะมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจที่เป็นมายาคติ ประเด็นต่อมา นพ.ประเวศกล่าวว่า ความถูกต้องนั้นจะถักทอกันขึ้นมาเองจากหน่วยย่อยข้างล่าง ไม่มีใครเสกความถูกต้องมาจากข้างบน ชุมชนเป็นที่อยู่ของศีลธรรม ถ้าทำให้ชุมชนดี ก็จะเป็นฐานของความถูกต้องจากข้างล่างจากนั้น นพ.ประเวศ อธิบายรายละเอียดต่อไปถึงกระบวนการชุมชนที่จะเป็นฐานสร้างความถูกต้องจากข้างล่าง คือต้องมี สภาผู้นำชุมชน สำรวจชุมชน ทำแผนชุมชน มีสภาประชาชน  และจะก่อให้เกิดการพัฒนา 8 ด้าน คือ เศรษฐกิจ จิตใจ สังคม วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม สุขภาพ การศึกษาและประชาธิปไตย องค์กรท้องถิ่นกว่า 7,000 องค์กร จะสามารถสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นของตนเองขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะทั้ง 7 ประการ 

ทั้งนี้ ความเข้มแข็งของชุมชนท้องถิ่น คือการจัดการตนเองได้ เป็น ‘อิทธิปัญญา’ ความรู้แบบท่องหนังสือยังเป็นความรู้แบบจัดการไม่เป็น ไม่ใช่ปัญญา ต้องเป็นความรู้ที่นำมาจัดการได้ คือนโยบายและการปฏิบัติ คำว่า ท้องถิ่นจัดการตนเอง คือการจัดการพัฒนาอย่างบูรณาการ และจัดการนโยบาย ซึ่งที่ผ่านมาความก้าวหน้ามักพูดเรื่องการปฏิวัติประชาชน ซึ่งหมายถึงการรวมตัวไปยึดอำนาจรัฐ หรือโค่นล้มอำนาจ เมื่อผู้ปกครองเป็นทรราช ประชาชนจะรวมตัวกัน แต่ส่วนใหญ่จะถูกปราบ ส่วนหนึ่งประสบความสำเร็จ แต่ส่วนน้อยก็ปกครองต่อไม่ได้ อย่างกรณีของอียิปต์ เมื่อประชาชนโค่นมูบารัก ประชาชนก็ปกครองเองไม่ได้ ทหารก็กลับมาปกครองแทน

นพ.ประเวศเสนอให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทยโดยประชาชนคือ “ประชาชนปฏิรูปประเทศไทย” ซึ่งจะไปไกลกว่าการปฏิวัติประชาชนแบบเก่าที่รุนแรง ล้มตาย และไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเรื่องที่ยากและซับซ้อนนั้นใช้อำนาจไม่ได้ผล ขณะที่การอภิวัฒน์นั้นไม่รุนแรง และการันตีว่าสำเร็จ “การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ ชุมชนท้องถิ่นจะจัดการปัญหาที่ยากและซับซ้อนได้ก็ต้องอาศัยพลัง 5 ประการ คือ พลังของความถูกต้อง เพราะถ้าทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องพักเดียวจะมอดไป พลังของความสามัคคี ไปด้วยความเป็นกลาง ไม่แยกข้าง ไม่แยกขั้ว-สี ไปด้วยความเมตตา กรุณา รักผู้คนทั้งหมด เพราะไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน นักวิชาการ นักธุรกิจ ก็มารวมตัวกันเป็นพลังทางสังคมได้”“พลังทางปัญญา ใช้ข้อมูล ใช้ความรู้เข้ามาวิเคราะห์ สังเคราะห์ เป็นประเด็นนโยบาย การเสนอประเด็นนโยบายสาธารณะเป็นยอดของปัญญา การไปเรียกร้องไม่ใช่ปัญญา แต่เป็นอารมณ์

ถ้าเราสังเคราะห์เป็นนโยบายได้ นั่นคือเป็นปัญญา” ซึ่งพลังของการจัดการสามารถรวมตัวกันทุกพื้นที่ขับเคลื่อน เอาปัญหาและความรู้ต่างๆ มาสังเคราะห์ มีส.ส.ส.เป็นพลังหนุนหลังชุมชนท้องถิ่น “ภาคประชาชนและภาคสังคมเป็นภาคที่สำคัญที่สุด แต่ไม่มีเครื่องมือเชิงสถาบันเลย เรามีภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคสังคม ซึ่งจำเป็นทั้งสามภาคต้องเสมอกันและสมานกัน เป็นสังคมสมานุภาพ” เป็นพลังสันติวิธี เพราะถ้าตีกันนองเลือดเสียแล้วก็จะหมดพลังในการขับเคลื่อนต่อไป”

นพ.ประเวศ กล่าวช่วงท้ายให้กับคนรุ่นหลังที่เป็นอนาคตของประเทศว่า จงเป็นคนที่มีกำลังใจ กำลังกาย กำลังคิด ช่วยกันประคับประคองประเทศไทย “ประเทศไทยต้องมีอนาคตที่น่าอยู่ที่สุด เพราะคนไทยเป็นคนร่วมกันสร้างประเทศไทยและอภิวัฒน์ประเทศไทยด้วยแนวทางชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง”
 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง