ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

แกะรอยคดีฆ่าหั่นศพ "ดาบิด แบร์นาด" ตร.ให้น้ำหนัก "เรียกค่าไถ่"

อาชญากรรม
4 ก.พ. 59
21:37
3,532
Logo Thai PBS
แกะรอยคดีฆ่าหั่นศพ "ดาบิด แบร์นาด" ตร.ให้น้ำหนัก "เรียกค่าไถ่"
จากวันแรกที่มีผู้พบชิ้นส่วนมนุษย์ในแม่น้ำเจ้าพระยาเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2559 คดีเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเมื่อตำรวจระบุตัวบุคคลของผู้เสียชีวิตได้แล้วว่าเป็นชายชาวสเปน แต่ที่ยังเป็นปริศนาคืออะไรคือมูลเหตุจูงใจการฆาตกรรม

ภาพใบหน้าจากหน้าหนังสือเดินทาง รวมทั้งลายนิ้วมือเป็นหลักฐานที่ตำรวจนำมาเปรียบเทียบกับรูปพรรณของผู้เสียชีวิตทำให้ยืนยันได้ว่าอวัยวะที่พบนั้นเป็นของนายดาบิด แบร์นาด (David Bernat) ซึ่งขณะนี้ศพของเขาเก็บไว้ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 หัวหน้าชุดพนักงานสืบสวนสอบสวน เปิดเผยว่าตำรวจได้พยานสำคัญที่ใกล้ชิดนายแบร์นาด ซึ่งพยานผู้นี้ให้ข้อมูลว่านายแบร์นาดเป็นคนสัญชาติสเปน ทำงานในประเทศไทย ในตำแหน่งที่ปรึกษาบริษัทแห่งหนึ่ง ในหนังสือเดินทางพบข้อมูลเดินทางเข้าออกประเทศไทยหลายครั้ง ครั้งล่าสุดคือการเดินทางเข้าประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 ม.ค.2559 โดยเดินทางมาจากกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ก่อนหายตัวไปจากห้องพักในซอยสุขุมวิท 8 ช่วงวันที่ 25-27 ม.ค.

"คนที่มาให้เบาะแสกับทางตำรวจเป็นคนที่อยู่ใกล้ชิดเหตุการณ์ซึ่งทางตำรวจของปกปิดตัวบุคคลผู้นี้ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย ในเบื้องต้น ตามพฤติการณ์ของคดีพบว่าถูกจับไป และถูกบังคับให้ทำอะไรบางอย่าง แล้วจึงลงมือฆ่าเพื่อปกปิดความผิด แล้วก็เอาไปทิ้ง ซึ่งสุดท้ายชิ้นส่วนก็ลอยขึ้นมา" พล.ต.อ.ปัญญากล่าว

พล.ต.อ.ปัญญายืนยันว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ให้น้ำหนักเป็นเรื่อง การจับตัวเรียกค่าไถ่เพราะจากพฤติการณ์พบว่า ผู้ก่อเหตุจับตัวนายแบร์นาดไปบีบบังคับเพื่อแลกกับทรัพย์สินบางอย่าง เมื่อผู้ก่อเหตุได้สิ่งที่ต้องการหรืออาจจะไม่สมประสงค์ จึงฆาตกรรมนายแบร์นาด และแยกชิ้นส่วนไปทิ้ง ส่วนสถานที่เกิดเหตุ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ พร้อมมั่นใจคดีนี้ จะจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีมากกว่า 2 คนได้ภายใน 48 ชั่วโมง เนื่องจาก ตำรวจมีข้อมูลกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว และเชื่อว่า ยังไม่หลบหนีออกนอกประเทศ.

ตามกำหนดการเดิมนายแบร์นาดต้องเดินทางกลับประเทศสเปนภายในสิ้นเดือนมกราคม แต่เขากลับขาดการติดต่อ และในช่วงเวลาเดียวกันในพื้นที่กรุงเทพฯ มีข่าวพบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ ทางครอบครัวจึงประสานตำรวจพร้อมส่งลายนิ้วมือ เพื่อให้มาเทียบเคียง

ในการสืบสวน ตำรวจพบผู้เกี่ยวข้องกับนายแบร์นาดหลายคน หนึ่งในนั้นพบว่ามีความผิดปกติของบัญชีธนาคาร เช่น มีการโอนเงินเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์จำนวน 2 ครั้ง ครั้งแรกเป็นจำนวนเงิน 1 แสนดอลลาร์สิงคโปร์หรือประมาณ 2.5 ล้านบาท ครั้งที่ 2 จำนวน 9.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือ กว่า 34 ล้านบาท ในช่วงเวลาเดียวกันเจ้าของบัญชีผู้นี้ยังตระเวนกดเงินออกจากบัญชีทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดบ่อยครั้งจนเจ้าหน้าที่ธนาคารสงสัยจึงระงับวงเงินในบัญชี 6 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 21 ล้านบาท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง