ผู้สร้างหนัง shakespear must die เตรียมยื่นอุทธรณ์ หลังถูกห้ามฉาย
ภาพของม็อบที่เกรี้ยวกราด การใช้สีแดงเป็นสื่อ การจำลองเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 และใช้ภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมสี่แยกราชประสงค์ รวมถึงเชื่อมโยงบทละครแม็คเบ็ธ เข้ากับสถานการณ์การเมืองไทยล้วนเป็นคำถามที่คณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ มีต่อ"เช็คสเปียร์ต้องตาย" และอาจเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เรต ห.ห้ามฉาย ชะตากรรมต่อไปของภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจ พิจารณาภาพยนตร์ชุดใหญ่ว่าจะเห็นไปในทางเดียวกันหรือไม่ หากคำตอบที่ได้ยังไม่เป็นที่พอใจ ผู้สร้างอาจเลือกใช้หนทางสุดท้ายคือการล่ารายชื่อเพื่อคัดค้าน พรบ.ภาพยนตร์และวิดีทัศน์ พ.ศ.2551
แม้หนังที่มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์ทางการเมืองอย่างแจ่มชัด อาจไม่เป็นที่คุ้นเคยนักในประเทศไทย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ในโลกภาพยนตร์เพราะเคยมีสารคดีรางวัลปาล์มทองคำอย่าง Farenheint/911 ที่วิพากษ์การทำงานของ ประธานาธิบดี "จอร์จ ดับเบิลยู บุช" อย่างรุนแรง หรือ "แวก เดอะ ด็อก" ที่หยิบกรณีอื้อฉาวของประธานาธิบดี บิล คลินตัน มานำเสนอ รวมถึงสารคดีเรื่อง Draquila ที่ล้อเลียน ซิลวิโอ เบลุสโคนี่ ประธานธิบดีอิตาลีอย่างเผ็ดร้อน ซึ่งก็สามารถฉายได้ในประเทศของตัวเอง ขณะที่คนในวงการภาพยนตร์ไทยก็เชื่อว่าด้วยการจัดเรตติ้งภาพยนตร์ เนื้อหาเช่นนี้ก็น่าจะนำเสนอได้เช่นกัน