กองทุนสวนยางทำแผนยุทธศาสตร์ตั้งเป้าปี 2556 มีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาท
สถานการณ์ราคายางพาราที่ตกต่ำอยู่ในขณะนี้ส่งผลให้หลายฝ่ายระดมความคิดเห็นเพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์แก้ปัญหาราคายางให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น นายวิทย์ ประทักษ์ใจ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง หรือ สกย. ระบุว่า การเพิ่มมูลค่ายางพารา จะเน้นการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ ด้วยการเลือกใช้ยางพันธุ์ดี การจัดการธาตุอาหาร ดินและน้ำ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าด้วยการนำน้ำยางสด ยางแผ่นดิบ หรือ ยางก้อนถ้วย มาแปรรูปเป็นยางแผ่นดิบรมควัน ยางเครฟ หรือยางแผ่นคุณภาพดี ขณะเดียวกันจะส่งเสริมให้เกษตรกร รวมตัวกันเป็นสถาบันเกษตรกรเพื่อร่วมกันผลิต และร่วมกันขายเพื่อให้ยางมีราคาดีขึ้น
นอกจากนี้จะผลักดันให้เกิดการปฎิรูปตลาดยางทั้งระบบ ทั้งตลาดท้องถิ่น และตลาดส่งออก ให้มีความสอดคล้องกัน โดยขณะนี้ สกย.มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาระบบตลาดให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ซึ่งจะเป็นแนวทางเพื่อนำมาปรับระบบการตลาด
ทั้งนี้ กสย.จะผลักดันให้อุตสาหกรรมยาง สร้างรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านล้านบาทภายในปี 2556 จากปัจจุบันที่มีมูลค่าปีละ 680,00 ล้านบาท และภายใน 3 ปีนับจากนี้ จะทำให้ยางมีราคากิโลกรัมละ 150-180 บาท
นายเจริญ รักษสุธากาญจน์ ประธานเครือข่ายชาวสวนยางแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้รัฐบาลเร่งสถาบันการเงิน ปล่อยสินเชื่อ พร้อมเห็นด้วยกับมาตรการระยะสั้น ที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณ 15,000 ล้านบาท พัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกร เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะสนับสนุนสินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร วงเงิน 5,000 ล้านบาท และองค์การสวนยางสนับสนุนสินเชื่อ 10,000 ล้านบาทแบบปลอดดอกเบี้ยเพื่อให้เกษตรกรซื้อยางเก็บสต็อกได้ในราคา กิโลกรัมละ 120 บาท