ททท.คาดสงกรานต์เงินสะพัดกว่า 50,000 ล้านบาท
ถนนข้าวสารถูกจัดเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องการเข้าร่วมเทศกาลสงกรานต์มากที่สุด จากการสำรวจของกรุงเทพโพลที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งเป็นชาวยุโรป รองลงมาเป็นชาวเอเชีย ส่วนสิ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯเป็นอันดับแรก คือ โบราณสถาน และโบราณวัตถุ รองลงมาคือ วัฒนธรรมประเพณี และศิลปะพื้นบ้าน
ด้านการท่องเที่ยวของคนไทยภายในประเทศช่วงเทศกาลสงกรานต์ หรือระหว่าง 12 - 29 เมษายน นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานฝ่ายนโยบาย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่าจะมีจำนวนสูงถึง 7 - 8 ล้านคน และเกิดรายได้หมุนเวียนไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านบาท เนื่องจากภาวะการเมืองที่สงบ และเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ทำให้ประชาชนใช้จ่ายเพื่อท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม น.ส.มัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศประเมินว่ากำลังซื้อของคนไทยจะเติบโตที่ร้อยละ 70 เท่านั้น ซึ่งต่ำกว่าปีที่แล้วราว ร้อยละ 10 เพราะคนไทยส่วนใหญ่เสียเงินไปกับการซ่อมแซมบ้าน และเตรียมเงินสำรองส่วนหนึ่งเพื่อป้องกันน้ำท่วมในอนาคต ขณะเดียวกัน เหตุระเบิด และผลกระทบจากสึนามิในภาคใต้ที่เกิดขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวซบเซาลงเช่นกัน
จากมุมมองของผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและความคิดเห็นของนักท่องเที่ยว สะท้อนให้เห็นว่าปัจจัยหลักที่มีผลต่อการท่องเที่ยวในไทย คือ ปัญหาการเมือง ภัยธรรมชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ระบุว่า เหล่านี้คือต้นตอปัญหาที่แท้จริงของการท่องเที่ยวไทย แต่ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับให้ความสำคัญต่อการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อประชาสัมพันธ์มากกว่า จึงทำให้แนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมนี้ไม่ชัดเจน และไร้ทิศทาง
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยคาดการณ์ว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมีนักท่องเที่ยวกว่า 6.34 ล้านคน และมีการใช้จ่าย 53,200 ล้านบาท ส่วนมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยที่จัดทำแบบสำรวจผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวพบว่าจะมีเงินสะพัดสูงถึง 100,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 7.1 ซึ่งสูงสุดในรอบ 6 ปี ตั้งแต่ปี 2550