ศาลนอร์เวย์เริ่มพิจารณา
ระหว่างเข้าห้องพิจารณานายแอนเดอร์ส เบรวิค ชาวนอร์เวย์อายุ 33 ปีชูกำปั้นขวาพร้อมประกาศว่า เขาไม่ยอมรับอำนาจศาลที่ทำงานให้กับรัฐบาล ซึ่งเปิดประเทศให้ผู้นับถือศาสนาอิสลามบุกเข้ามาครอบงำทวีปยุโรป นายเบรวิค ยังบอกด้วยว่า เขาพอใจมากกว่าถ้าได้ขึ้นศาลทหาร
โดยคดีนี้เป็นเหตุการณ์ 2 ครั้งซ้อนในวันที่ 22 กรกฎาคมปีที่แล้ว โดยเหตุการณ์แรกเป็นการโจมตีที่ทำการรัฐบาลนอร์เวย์กลางกรุงออสโลว์ด้วยรถยนต์บรรทุกระเบิด หรือ คาร์บอมบ์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 209 คน ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 คือการบุกไปไล่ฆ่าเยาวชนที่กำลังมาออกค่ายของพรรครัฐบาลนอร์เวย์บนเกาะ อูโทญ่า ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอีก 69 คน
ทนายความของนายเบรวิค ให้การต่อศาลว่า ลูกความของเขารับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือกระทำจริงทั้ง 2 เหตุการณ์ แต่เป็นการกระทำเพื่อการป้องกันไม่ให้ผู้นับถือศาสนาอิสลามบุกเข้ามายึดครองทวีปยุโรป โดระหว่างอัยการฝ่ายโจทก์แสดงหลักฐาน เป็นภาพที่นายเบรวิคบันทึกไว้เองขณะก่อเหตุ รวมทั้งภาพที่นายเบรวิคแสดงตนว่า เป็นผู้พิทักษ์แห่งยุโรป รวมทั้งเอกสารต่อต้านผู้นับถือศาสนาอิสลาม 1,500 หน้า นายเบรวิคถึงกับน้ำตาไหล
หลังฟังคำฟ้องโจทก์และคำให้การจำเลยเสร็จ ศาลได้เลื่อนการพิจารณามาเป็นวันนี้ แต่ประเด็นที่ทุกคนให้ความสนใจ มุ่งไปที่เรื่องว่า นายเบรวิคเป็นบ้าหรือไม่ โดยผลการวินิจฉัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ศาลตั้งก่อนหน้านี้ออกมาขัดแย้งกัน 2 รายงาน โดยรายงานชุดแรกสรุปว่า นายเบรวิคจิตวิปริต แต่รายงานที่ 2 กลับสรุปออกมาตรงกันข้าม
ทั้งนี้หากศาลสรุปว่า นายเบรวิคจิตปกติ เขาอาจต้องรับโทษจำคุกสูงสุด 21 ปี ซึ่งจะมีการพิจารณาต่อเวลาออกไปเรื่อย ๆ โดยดูจากพฤติกรรมว่ายังเป็นภัยอยู่หรือไม่ แต่หากศาลสรุปว่าเป็นบ้า นายเบรวิคจะถูกควบคุมตัวไว้ในโรงพยาบาลโรคจิตตลอดชีวิต