ตรวจสอบที่ดิน 7,000 พันไร่ อยุธยา หวั่นเป็นของนายทุนต่างชาติ
ที่นากว่า 7,000 ไร่ในอำเภอบางซ้าย และอำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่มีผู้แสดงสิทธิ์ความเป็นเจ้าของ ทั้งๆ ที่ชาวบ้านขายให้กับ บริษัทเอกชนผ่านนายหน้ามากว่า 17 ปีแล้ว จึงทำให้วันนี้ที่นาหลายแปลงกลายเป็นที่รกร้างว่างเปล่า และบางแปลงชาวบ้านได้เข้าทำกิน โดยมีผู้นำชุมชนอ้างตัวเป็นผู้เก็บค่าเช่า
ทีมข่าวได้สอบถามข้อมูลจากผู้นำชุมชนพบว่า ที่นาถูกเปลี่ยนมือจากชาวบ้านก่อนวิกฤตเศรษฐกิจ 2540 โดยมี บริษัทอยุธยาเกษตรธานี จำกัด เป็นผู้กว้านซื้อ หลังจากขายที่นาไปแล้ว ชาวบ้านเกรงว่า บริษัทเอกชนรายนี้อาจจะไม่มีตัวตนจริง เพราะเคยไปติดต่อสอบถามตามที่อยู่ที่เคยขึ้่นทะเบียนไว้ แต่กลับพบเพียงสำนักงานว่างเปล่า ทำให้มีข้อสงสัยว่า อาจจะมีนายทุนต่างชาติเป็นเจ้าของที่ดินเหล่านี้หรือไม่
ทีมข่าวไทยพีบีเอสพบหลักฐานว่า ที่ดินเหล่านี้กำลังถูกขายทอดตลาด ที่สำนักงานบังคับคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีกองทุนแกมม่าแคปปิตอลเป็นผู้ฟ้องบังคับดีจาก บริษัทอยุธยาเกษตรธานี จำกัด และบริษัทกรีนวัลเล่ พรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด
ซึ่งบริษัทอยุธยาเกษตรธานี จำกัดถูกฟ้องล้มละลายเมื่อปี 2545 จากนั้นกองทุนแกมม่าแคปปิตอลได้เข้ามาบริหารแทน ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า กองทุนแกมม่าแคปปิตอล ถูกบริหารงานโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวัน จำกัด มีผู้ถือหุ้นรวม 7 คน ในจำนวนนี้มี 5 คน เป็นชาวฮ่องกง และไต้หวัน
โดยเรื่องนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าบริษัทดังกล่าวมีการกระทำความผิดตาม พรบ.ธุรกิจของคนต่างด้าวหรือไม่ การพบข้อมูลว่า มีชาวต่างชาติให้คนไทยเป็นนอมินีกว้านซื้อที่ดินเพื่อเตรียมทำการเกษตรนี้ ทำให้กระทรวงเกษตรและสหรกรณ์ เตรียมออกพระราชบัญญัติคุ้มครองพื้่นที่เกษตรกรรม เพื่อไม่ให้ที่ดินของเกษตรกรตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติ ล่าสุดร่างกฎหมายฉบับนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำแล้วเสร็จและเตรียมจะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในเร็วๆ นี้