ค่าไฟฟ้ารอบเดือน พ.ค.-ส.ค. ขึ้นหน่วยละ 30 สตางค์
คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ เรกกูเลเตอร์ มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟที รอบเดือนพฤษภาคม ถึง สิงหาคม 2555 อีกหน่วยละ 30 สตางค์ ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปรับเป็นหน่วยละ 3.80 บาท จากเดิมเฉลี่ยหน่วยละ 3.50 บาท ทำให้แต่ละเดือนประชาชน ต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มขึ้นอย่างน้อยเดือนละร้อยละ 7-8 จากปกติ
ทั้งนี้ ต้นทุนค่าไฟฟ้าที่แท้จริงอยู่ที่หน่วยละ 57 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ต้องแบกภาระชดเชยค่าไฟต่อเนื่องเป็นงวดที่ 2 คิดเป็นเงินกว่า 20,000 ล้านบาท จากประมาณการณ์ค่าไฟรอบนี้ ที่เพิ่มขึ้นกว่า 5,000 ล้านหน่วย ส่วนค่าไฟในงวดถัดไป คณะกรรมการฯ จะพิจารณาทยอยปรับขึ้นค่าเอฟทีแบบขั้นบันได เพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น และลดภาระการชดเชยของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การปรับขึ้นค่าเอฟที จะกระทบต่อต้นทุนภาคอุตสาหกรรม รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม และประชาชนที่จะต้องรับภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเพิ่มต้นทุนให้กับภาคครัวเรือน กกพ.จึงควรมีการพิจารณาปรับขึ้นค่าไฟฟ้าให้รอบด้าน
ขณะที่ นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า วานนี้ (25 เม.ย.) เมื่อเวลา 14.30 น. ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีค) ได้พุ่งสูงสุดอยู่ที่ 25,682 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ครั้งที่ 6 ในรอบปีนี้โดยทำลายสถิติเดิม เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ที่ 25,551 เมกะวัตต์ สาเหตุเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว จึงขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันประหยัดการใช้ไฟ และเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดไฟ ซึ่งจะเป็นช่วยลดการใช้ไฟฟ้าลงได้