ทั้งประชาชนและสมาชิกสภาของพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยหรือเอ็นแอลดี ต่างแสดงความผ่อนคลายหลังพรรคเอ็นแอลดีตัดสินใจจะให้สมาชิกพรรคที่ได้รับ เลือกตั้งมาสาบานตนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันอังคารที่ 1 พ.ค. นี้
โดยประชาชนกล่าวว่า นางอองซานซูจีและลูกพรรคเอ็นแอลดีจะทำประโยชน์ให้ได้มากกว่าเมื่อเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในสภา แม้จะเป็นฝ่ายค้าน ขณะที่สมาชิกสภาของพรรคเอ็นแอลดีก็อ้างว่าไม่ใช่เป็นการกลืนน้ำลายตัวเอง แต่ต้องเปลี่ยนใจไปตามความต้องการของประชาชนที่เลือกมา
พรรคเอ็นแอลดีกวาดที่นั่งจากการเลือกตั้งซ่อมสมาชิกสภาเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาทั้งหมด คือ 44 ที่นั่ง แต่เมื่อจะต้องสาบานตนก่อนเข้าปฏิบัติหน้าที่ พวกเขารวมถึงนางซูจีเรียกร้องให้แก้คำสาบานตนในรัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยทหาร จาก "ปกป้องคุ้มครอง" มาเป็น "เคารพ" รัฐธรรมนูญ ฉบันนี้ อย่างไรก็ดีการกลับลำครั้งนี้มีขึ้นโดยที่ยังไม่มีการแก้ถ้อยคำแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน พม่าที่เคยอยู่ในสภาพโดดเดี่ยวมานานหลายสิบปี แต่ปรากฏว่าขณะนี้กลับมีผู้นำจากนานาชาติเดินทางมาเยือนชนิดที่ไม่ขาดสาย ซึ่งรวมถึงนายบันคีมุน เลขาธิการสหประชาชาติ
นายบันได้เข้าพบหารือกับ พล.อ.เต็งเส่ง ประธานาธิบดีพม่าที่ทำเนียบในกรุงเนปิดอว์ โดยเมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา นายบันยังได้รับเกียรติให้เข้ามากล่าวสุนทรพจน์ในสภา ซึ่งถือเป็นชาวต่างชาติคนแรก โดยนายบันได้ยกยอว่า พล.อ.เต็งเส่งคือพลังขับเคลื่อนหลักของการปฏิรูปประชาธิปไตยในพม่าครั้งนี้
นอกจากนี้ พม่ายังมีคณะผู้แทนจากสหภาพยุโรปหรืออียู และ รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีเตรียมเดินทางมาเยือน ซึ่งการหารือส่วนใหญ่เป็นการให้ความช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศกับพม่า