เนื่องจากไม่สามารถรอการเข้าช่วยเหลือเยียวยา จากบริษัท และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องได้ ขณะที่บางหลังยังไม่ซ่อมแซม เพราะย้ายไปอยู่ที่อื่น เนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัย  

 

ส่วนปัญหาเรื่องสุขภาพยังคงทำให้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบพากันหวั่นวิตก และพากันเข้ารับการตรวจรักษาจากแพทย์ พยาบาล ที่มาตั้งศูนย์ตรวจสุขภาพในหลายจุดซึ่งส่วนใหญ่ยังคงมีอาการเจ็บป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ขณะเดียวกันต่างก็ยังหวาดวิตกว่าเหตุการณ์จะเกิดซ้ำอีก ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ต้องส่งทีมสุขภาพจิตเข้ามาบำบัดด้านจิตใจควบคู่ไปด้วย

 

ขณะที่ นพ.ไพโรจน์ บุญศิริคำชัย ผู้ช่วยเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. เสนอให้มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด โดยเฉพาะระหว่างทำงาน ให้มีระบบการแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุ การจัดเตรียมแผนดับเพลิง และต้องจัดซ้อมแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

 

นอกจากนี้ ยังเตรียมผลักดันมาตรการ 3 มาตรการ คือการเตรียมพร้อมด้านบุคลากร ด้วยการเปิดอบรมชุดเคลื่อนที่เร็ว ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน การเตรียมพร้อมอุปกรณ์ ให้พร้อมใช้งานตลอดเวลา และจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพมากที่สุด  

 

ขณะที่วันนี้ (8 พ.ค.) นายพีระวัฒน์ รุ่งเรืองศรี ผู้ช่วยผู้ว่าการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้เรียกผู้บริหารโรงงาน ที่มีสารเคมีกว่า 60 รายมาหารือ ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม เพื่อหารือถึงแนวทางการเข้าตรวจสอบโรงงานภายใน 35 วัน นอกจากนี้ ยังหารือถึงการจัดทีมลาดตระเวนเฝ้าระวังสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุเกิดซ้ำอีก รวมทั้งสามารถแก้ไขได้อย่างทันถ่วงทีหลังเกิดเหตุ