ก.พาณิชย์เร่งเปิดร้านธงฟ้าในกรุงเทพฯ 1,000 ร้านค้า ลดค่าครองชีพประชาชน

เสียงสะท้อนของประชาชนต่อภาวะราคาสินค้าและค่าครองชีพสูง ทำให้ขณะนี้รัฐบาลกำลังพยายามใช้ช่องทางต่าง ๆ เพื่อจะบรรเทาความเดือดร้อน โดยกระทรวงที่เกี่ยวข้องต่างใช้เครื่องมือ และ กลไกที่มีอยู่ เพื่อลดต้นทุนราคาสินค้า และ จัดโครงการสินค้าราคาถูกให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด

กระทรวงพาณิชย์ซึ่งมีบทบาทหน้าที่โดยตรงในการดูแลสินค้าจะเร่งเปิดร้านธงฟ้าในเขตกรุงเทพมหานคร 10 เขตภายในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งถือเป็นมาตรการหลักในการดูแลราคาสินค้าร่วมกับการเปิดร้านถูกใจให้ได้ 2,000 ร้าน ภายในเดือน พ.ค.นี้ โดยจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ 1,000 ร้าน และต่างจังหวัดอีก 1,000 ร้าน โดยร้านถูกใจจะจำหน่ายสินค้าจำเป็นราคาถูกกว่าท้องตลาด 20 รายการ ซึ่งก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้าเปิดร้านถูกใจ 10,000 ร้าน ทั่วประเทศภายในเดือนกันยายน นอกจากนี้จะขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการให้ตรึงราคาสินค้าไว้ด้วย

ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์จะจัดมหกรรมอาหารในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เป็นเวลา 2 เดือน และ จะขอความร่วมมือศูนย์อาหารรายใหญ่ในกรุงเทพจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปเมนูละไม่เกิน 30 บาท โดยกรมการค้าภายในจะช่วยดูแลต้นทุนสินค้า ซึ่งเบื้องต้นจะดำเนินการ 2 - 4 เดือน

ขณะที่นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใจ เปิดเผยการลงสำรวจตลาดสด 11 แห่งของคณะรัฐมนตรี พบว่า กลุ่มพืชผัก ปรับราคาสูงขึ้นอย่างชัดเจน โดยให้เหตุผลว่า สภาพอากาศร้อนในปีนี้ส่งผลให้ผลิตได้รับความเสียหายซึ่งเมื่อมีปริมาณน้อยลง ราคาจึงสูงขึ้น เช่นถั่วฝักยาว และ คะน้า

ขณะที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงานมีมติให้คงราคาเชื้อเพลิงทุกประเภท ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี โดยจะชะลอจัดเก็บเงินจาก น้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล น้ำมันดีเซล รวมถึงตรึงราคาก๊าซเอ็นจีวี และ แอลพีจี ออกไปอีก 3 เดือน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของราคาสินค้า ที่มาจากภาคขนส่ง ขณะที่มีรายงานว่าคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานจะหารือในวันพรุ่งนี้ ( 9 พ.ค.) เพื่อจะทบทวนค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ เอฟที ที่ประกาศปรับขึ้น 30 สตางค์ในรอบเดือน พ.ค.-ส.ค.นี้ โดยคาดว่า อาจจะปรับการจัดเก็บค่าเอฟทีลง