ประมงพื้นบ้านลักลอบจับสัตว์น้ำในพื้นที่อ่าวลีเล็ด จ.สุราษฎร์ธานี แม้ประกาศปิดอ่าว 7 วัน
เจ้าหน้าที่ประมงลาดตระเวนอ่าวลีเล็ดใน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี พบเรือประมงพื้นบ้านอย่างน้อย 4 ลำลักลอบเข้าไปคราดกุ้ง ในเขตหวงห้าม แม้ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะประกาศปิดอ่าวเป็นเวลา 7 วัน แต่ทั้งหมดอ้างว่า ไม่ทราบประกาศเตือน
นอกจากนี้ยังพบคอกเลี้ยงหอยแครงพื้นที่กว่า 600 ไร่ โดยมีแนวไม้ไผ่ปักแสดงอาณาเขตทั้งที่จุดนี้เป็นเขตอนุรักษ์ โดยชาวประมง อ้างว่า ได้รับการว่าจ้างจากนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งให้ทำประมงตั้งแต่ปี 2550 และเปิดให้นายทุนเข้าจับจอง
ซึ่งการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นเป็นผลมาจากการประท้วงปิดปากแม่น้ำตาปี ของชาวประมงพื้นบ้านเพื่อเรียกร้องให้ทางการแก้ปัญหาการทำประมงในอ่าวลีเล็ด โดยอ้างว่า เป็นพื้นที่สาธารณะทำให้จังหวัดสุราษฎร์ธานีประกาศปิดอ่าวเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตรจากชายฝั่ง 3,000 เมตร ระหว่างวันที่ 12-19 พฤษภาคมเพื่อหาทางออกร่วมกัน
ล่าสุดผู้นำท้องถิ่นตำบลลีเล็ด ซึ่งจัดตั้งเขตอนุรักษ์ขึ้นเองยอมเปิดพื้นที่ร้อยละ 40 ของพื้นที่อ่าวลีเล็ดจำนวน 17,000 ไร่ให้ชาวประมงเข้าไปคราดหอยในอ่าวได้บางส่วนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ แต่มติดังกล่าวประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี บอกว่า ไม่สามารถทำได้เพราะไม่ได้ผ่านการรับรองจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะทำประมงในเขตอนุรักษ์ได้ต่อเมื่อ ชาวบ้านรวมตัวกันทำโครงการฟาร์มทะเล
ส่วนชาวประมงพื้นบ้านรวม 4 อำเภอ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชุมนุมประท้วงยังรอดูการแก้ปัญหาของทางจังหวัด และ กรมประมง ภายในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ พร้อมระบุว่า หากไม่ได้รับอนุญาตเข้าไปทำประมงในอ่าวลีเล็ดจะเคลื่อนไหวอีกครั้ง