นักเรียนบดินทรเดชายันไม่เรียนโรงเรียนคู่ขนาน รอผลกรรมการเยียวยา
นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ สพฐ. ว่า เนื่องจากจากกรณีของนักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) เรียกร้องว่าถูกตัดสิทธิการเข้าเรียนต่อชั้น ม.4 โรงเรียนเดิมนั้น ที่ประชุมได้หยิบยกกรณีดังกล่าวขึ้นมาหารือ เพื่อทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติการรับนักเรียนสังกัด สพฐ.ในปีการศึกษาหน้า โดยจะต้องมีการทบทวนประเด็นหลักๆ เช่น กรณีการรับนักเรียนเงื่อนไขพิเศษ ที่จะต้องมาดูพิจารณาให้รอบคอบว่า เงื่อนไขข้อใดที่ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ ก็อาจจะต้องปรับแก้ให้เกิดความเหมาะสม
นอกจากนี้จะทบทวนในเรื่องอื่นๆ ที่หลายฝ่ายบอกว่าเป็นกฎเกณฑ์ที่เขียนตายตัว และตึงตัวเกินไป โดยจะมีการปลดล็อคให้ผ่อนคลายมากขึ้น อาทิ เรื่องการขอขยายห้องเรียน ซึ่งต่อไป สพฐ.อาจจะพิจารณาผ่อนคลายเรื่องการเพิ่มห้องเรียน ขยายห้องเรียน ให้เป็นไปตามความต้องการของผู้ปกครองและนักเรียนมากขึ้น โดยจะมอบหมายให้คณะกรรมการยกร่างนโยบายและแนวปฏิบัติฯ เร่งดำเนินการ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือ กพฐ. พิจารณา ภายในเดือนกันยายนนี้
ส่วนกรณีของนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดช (สิงห์ สิงหเสนีย์)จำนวน 57 คน ที่ไม่สามารถสอบเลื่อนชั้นขึ้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในโรงเรียนเดิมได้ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ขอให้ผู้ปกครองนักเรียน พานักเรียนไปเรียนในโรงเรียนคู่ขนานไปก่อน พร้อมกับตั้งคณะกรรมการเยียวยานักเรียน และตรวจสอบคุณสมบัตินักเรียนทั้ง 57 คนว่า เข้าตามหลักเกณฑ์การรับ แต่ถูกกีดกันสิทธิ์ ทำให้ไม่ได้เข้าเรียนในโรงเรียนเดิมจริงหรือไม่ และหากพบว่านักเรียนถูกกีดกันจริง ก็จะให้กลับเข้าเรียนได้ตามเดิม
ขณะที่นักเรียนส่วนใหญ่ที่มีปัญหาในกรณีนี้ ยืนยันว่า จะไม่ไปเรียนที่โรงเรียนคู่ขนาน 3 แห่งได้แก่ โรงเรียนมัธยมวัดบึงทองหลาง โรงเรียนเทพลีลา และโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ บดินทรเดชา ตามที่ สพฐ.ระบุ แม้ว่าวันนี้(23 พ.ค.) โรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ จะเปิดภาคเรืยนแล้วก็ตาม โดยตัวแทนผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบดินทรเดชาฯ บอกว่า หลังจากนี้จะยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการเยียวยา ที่ทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตั้งขึ้น และจะรอผลการสอบจากคณะกรรมการเยียวยาที่จะชี้ขาดในวันจันทร์ที่ 28 พฤษภาคม ว่าจะเรียนต่อในโรงเรียนเดิมได้หรือไม่
ด้านนายสุขุม เฉลยทรัพย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า แนวทางที่คณะกรรมการเยียวยา สามารถพิจารณาได้ คือ การแบ่งเด็กออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่
1.เด็กที่ได้รับสิทธิ์ตามหลักเกณฑ์ที่โรงเรียนกำหนด
2.เด็กที่ไม่เข้าตามหลักเกณฑ์ คือ เด็กที่คะแนนไม่ถึงกับเด็กกิจกรรม
3.เด็กที่ไม่ใช่นักเรียน ม.3เดิมของโรงเรียน แต่ผู้ปกครองอยากให้เข้าเรียน ซึ่งคณะกรรมการเยียวยาจะต้องพิจารณาหลักเกณฑ์ให้ชัดเจนว่า จะรับใครอย่างไร โดยต้องมีเหตุผลที่สามารถชี้แจงได้เป็นรายกรณี โดยเฉพาะเด็กที่คะแนนไม่ถึงกับเด็กกิจกรรม