นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่า การลาออกในครั้งนี้ เป็นเรื่องของงานในกระทรวงคมนาคมที่ต้องเดินหน้าและต้องใช้อำนาจตัดสินใจของปลัดกระทรวงคมนาคม เนื่องจากมีหลายโครงการที่ยังคั่งค้างและต้องให้ปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินหน้าโครงการ หากล่าช้าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวม และคดีความที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไร จึงต้องการให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาตั้งบุคคลที่เหมาะสมมาดำรงตำแหน่งเพื่อเดินหน้างานที่ยังคั่งค้างอยู่ สำหรับการลาออกในครั้งนี้เป็นการตัดสินใจด้วยตนเอง ไม่มีการเมือง หรือ กลุ่มใดเข้ามากดดัน และ ไม่เกี่ยวข้องกับการที่คณะกรรมการ ปปช. เตรียมพิจารณาลงความเห็นตามที่คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีร่ำรวยผิดปกติเสนอด้วย อย่างไรก็ตาม การลาออกครั้งนี้ก็ไม่สามารถทำให้การตรวจสอบหรือการพิจารณาคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือปปช. และหน่วยงานต่างๆยุติลง ซึ่งตนก็ยังเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของคณะกรรมการ ปปช. เพราะที่ผ่านมาได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการตรวจสอบและการเรียกเอกสารต่างๆ ของทุกหน่วยงาน ซึ่งคณะอนุกรรมการของปปช.ได้เรียกเอกสารต่างๆและพยานบุคคลถึง 20 ปี