นักนิติศาสตร์ แนะคดีทางการเมือง ควรพิจารณา 2 ศาล
ช่วงหนึ่งของการเสวนา รศ.ประสิทธิ์ ปิวาวัฒนาพานิช อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลการศึกษาบทบาทของฝ่ายตุลาการในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พบว่า ป.ป.ช. อัยการสูงสุด และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางเมือง มีบทบาทสำคัญและมีความรับผิดชอบร่วมกันในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต แต่มีข้อเสนอว่า ในแต่ละขั้นตอนที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพและความเป็นธรรม เพราะการพิจารณาคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเสมือนเป็นศาลชั้นแรก และเป็นศาลสูงสุดในคราวเดียวกัน โดยจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์หรือรื้อคดีใหม่ได้
แต่นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน กลับเห็นต่าง โดยย้ำว่ากระบวนการพิจารณาปัจจุบันมีความเหมาะสมแล้ว เช่นเดียวกับนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. ที่ยอมรับว่า คดีนักการเมืองมีความซับซ้อนและมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องจึงควรพิจารณาคดีในศาลเดียว
หลังการเสวนานายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เปิดเผยว่า วันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) จะมีการพิจารณาและแถลงผลการไต่สวนข้อกล่าวหานายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม กรณีร่ำรวยผิดปกติ ส่วนการแจ้งบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน คาดว่า จะแล้วเสร็จสิ้นเดือน ส.ค.และในปลายปีจะสรุปกรณีการทุจริตต่อหน้าที่