เวลา 16.45 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จลงจากที่ประทับ ชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ เพื่อประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินจากโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพมหานครไปยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการส่วนพระองค์ โดยมีประชาชนจำนวนมากเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พร้อมเปล่งเสียงทรงพระเจริญ
เวลา 17.55 น.รถยนต์พระพระที่นั่งถึงยังพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย ในการนี้พระราชทานพวงมาลัยให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปถวายที่โต๊ะหมู่หน้าพระราชานุสาวรีย์เพื่อทรงสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัย วีรสตรีสมัยอยุธยา ที่ทรงมีความกล้าหาญยอมสละพระชนม์ชีพเพื่อปกป้องบ้านเมืองและพระสวามี สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา
โอกาสนี้ประทับรถยนต์พระที่นั่ง ทอดพระเนตรบริเวณโดยรอบพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยพื้นที่ 256 ไร่ มีพื้นที่สระเก็บน้ำ 200 ไร่ โครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา ดำเนินการบริหารจัดการสระเก็บน้ำในรูปแบบพื้นที่แก้มลิง และปรับปรุงและซ่อมแซมดูแลบำรุงรักษาให้สามารถใช้งานได้อย่างเดิม และมีประประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราษฎร
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์แสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์พื้นบ้านและผลิตผลทางการเกษตร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ครอบครัว น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายโฉนดที่ดินแปลง จำนวน 7 ไร่ ซึ่งเป็นแปลงนาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเกี่ยวข้าวบริเวณทุ่งมะขามหย่อง เมื่อพุทธศักราช 2539 และ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ในพระบรมราชูปถัมภ์
จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงสื่อผสม "ทุ่งมะขามหย่อง ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ" ประกอบด้วยการแสดงชุดต่าง ๆ ได้แก่ 16 ปีแห่งความหลัง ณ ทุ่งมะขามหย่อง บอกเล่าเรื่องราว พระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีต่อชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยเมื่อปีพุทธศักราช 2534 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแนวพระราชดำริ ให้ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำรอบพระราชานุสาวรีย์ เพื่อนำน้ำจำนวนมากมาใช้ประโยชน์ในหน้าแล้ง
และในปี 2538 เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้มีพระราชกระแสให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาปล่อยน้ำเข้าพื้นที่ของพระราชานุสาวรีย์ เพื่อบรรเทาปัญหาแก่ราษฎรที่ได้รับความดือดร้อนจากอุทกภัย ซึ่งในปี 2538 สามารถกักเก็บได้ 1,583,040 ลูกบาศก์เมตร และ สามารถนำน้ำไปใช้ด้านการเกษตร โดยส่งเสริมอาชีพแก่ราษฎร 4 โครงการ คือ การปลูกข้าวนาปรัง ปลูกพืชอายุสั้นและไม้ผล เลี้ยงปลา และ เลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน พื้นที่บริเวณนี้ จึงเป็นทั้งพื้นที่แก้มลิงเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง รวมทั้งยังเป็นพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระศรีสุริโยทัย
นอกจากนี้ยังมีการแสดงการจำลองการเคลื่อนทัพของสมเด็จพระสุริโยทัยที่แสดงให้เห็นถึงความเสียสละของบรรพกษัตริย์ที่ยอมแลกชีวิตและเลือดเนื้อเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน การแสดงชุด "น้ำพระทัยขับไล่น้ำตา" การขับบทกลอนเฉลิมพระเกียรติในพระมหากรุณาธิคุณที่บรรเทาความทุกข์ให้แก่ประชาชน พระปรีชาสามารถและความเสียสละของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่องนาวากลางกระแสพระกรุณา, การแสดงระบำสายน้ำ ลำนำแห่งแผ่นดินทอง, การขับร้องเพลงเทิดพระเกียรติผู้ปิดทองหลังพระ และเพลงสดุดีมหาราชา เป็นต้น
หลังจากเสร็จสิ้นการแสดงเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระตำหนักสิริยาลัยเสวยพระกระยาหารค่ำตามพระราชอัธยาศัย
