ผู้ปกครอง วอนรัฐใช้มาตรการเด็ดขาดแก้ปัญหานร.ทะเลาะวิวาท
นายเริงชัย ไพรโสภา บิดาของผู้เสียชีวิตมีความหวังว่าจะได้เห็นมาตรการที่เด็ดขาดในการป้องกันและจัดการปัญหาเด็กนักเรียนทะเลาะวิวาท และก่อเหตุรุนแรง จนทำให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง ต้องสูญเสียอีก
ส่วนอีกครอบครัว แม้จะแก้ปัญหาการทะเลาะวิวาทของกลุ่มนักเรียนต่างสถาบัน ด้วยการให้ลูกชายย้ายสถานศึกษา หลังเรียน จบปวช. จากวิทยาลัยเทคโนโลยีไทยวิจิตรศิลป์ ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย แต่ท้ายที่สุด นายวันชัย ทองสองแก้ว นักเรียนที่ถูกยิงผู้เสียชีวิต ก็ย้ายกลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิม และแจ้งให้แม่ทราบก่อนเสียชีวิตเพียง 1 วัน ส่วนพ่อมีโอกาสทราบเรื่องในวันที่ลูกชายเสียชีวิต
นอกจากผู้เสียชีวิตเหตุการณ์นี้ ยังมีผู้โดยสารรถประจำทางสาย 59 ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน คือนายธนะสิทธิ์ ท้ายเหมือง และ น.ส.กาญจ์สินี เทียมจิตรุ่ง โดยเฉพาะนายธนะสิทธิ์ ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพล โดยนาวาอากาศเอก สุชิน บุญมา รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช ระบุว่า ผู้ป่วยยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้องกึ่งไอซียู หลังจากแพทย์ใส่ท่อระบายเลือดและลมออกจากปอด ควบคู่กับการใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
และนี่เป็นส่วนหนึ่ง ของเหตุการณ์ ที่ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกไว้ได้ จะเห็น กลุ่มนักเรียนที่ก่อเหตุมาด้วยกัน 6 คน และ 1 ใน 6 ซึ่งถืออาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ก็ยิงเข้าใส่คนที่อยู่บนรถประจำทาง แม้ขณะนั้นจะมีผู้โดยสารจำนวนมาก ก่อนที่แยกย้ายกันหลบหนี
ซึ่งขณะนี้มีรายงานว่าตำรวจทราบกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้วและอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี
สำหรับเหตุการณ์นักเรียนอาชีวะก่อเหตุทะเลาะวิวาท ตำรวจได้เก็บสถิติไว้ พบว่า เดือนที่มีเหตุมากที่สุด คือเดือน มิ.ย. ก.ค. และส.ค.และในปีนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.จนถึงเดือนพ.ค.ตำรวจได้รับแจ้งเหตุถึง 386 ครั้ง พื้นที่ที่มีการก่อเหตุมากที่สุดคือ ท้องที่สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก จำนวน 21 ครั้ง ซึ่งข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. ซึ่งได้ตรวจสอบสถิติที่ผ่านๆ มาพบว่า ในช่วง 2 ถึง3 ปีที่ผ่านมา เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของนักเรียนลดลง แต่มีความรุนแรงมากขึ้น