บริษัท จีแคป วิเคราะห์ทางเทคนิค ถึงปัจจัยที่ต้องจับตาวิกฤตยูโรโซนคือ ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยในวันนี้ว่า สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของภาคธนาคารสเปนอยู่ที่ระดับ 8.72% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2537 รวมเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นแตะ 1.5274 แสนล้านยูโร (1.93 แสนล้านดอลลาร์) สัดส่วนหนี้เสียเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับ 8.37% ในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนก.พ.2537 อยู่เพียงเล็กน้อย ซึ่งในตอนนั้นอัตราส่วนหนี้เสียพุ่งแตะ 9.15% ของหนี้ทั้งหมด
จีแคป ระบุด้วยว่า ในสัปดาห์นี้ ทีมผู้ตรวจสอบอิสระที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลสเปนภายใต้การนำของนายกรัฐ มนตรีมาเรียโน ราฮอย มีกำหนดรายงานผลการตรวจสอบบัญชีธนาคารพาณิชย์ของสเปนในเบื้องต้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้ว่าสเปนจะต้องการเงินจากกองทุนช่วยเหลือของ สหภาพยุโรป (อียู) เป็นจำนวนเท่าไร หลังจากที่นายราฮอยได้ยื่นขอความช่วยเหลือเมื่อกว่าหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นที่คาดการณ์กันว่าสเปนอาจต้องการเงินประมาณ 1 แสนล้านยูโร (1.36 แสนล้านดอลลาร์) จากอียู เพื่อรับประกันความมั่นของธนาคารในประเทศ ธนาคารพาณิชย์ของสเปนแบกรับภาระหนี้เสียอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการล่มสลายของภาคการก่อสร้างและตลาดที่อยู่อาศัยในช่วงที่ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ยอดขายและราคาบ้านทรุดลงอย่างหนักนับตั้งแต่ปี 2541 ส่งผลให้มีสิ่งปลูกสร้างถูกทิ้งร้างว่างเปล่าเป็นจำนวนมาก ทำให้บริษัทก่อสร้างหลายแห่งต้องเลิกกิจการและปล่อยให้ธนาคารมีหนี้เสียเป็น จำนวนมาก