นัดสุดท้ายของ กลุ่มดี ทีมชาติอังกฤษ พบกับ ยูเครน เจ้าภาพร่วม โดย อังกฤษ ลงเล่นมา 2 นัด เสมอ 1 ชนะ 1 มี 4 คะแนน ส่วน ยูเครน ชนะ 1 แพ้ 1 มี 3 คะแนน
สำหรับความพร้อมของทีมชาติอังกฤษ รอย ฮ็อจสัน จะส่งเวนย์ รูนี่ย์ กองหน้าจากปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยืนเป็นกองหน้าตัวจริง หลังจากที่พ้นโทษแบน 2 นัด โดยจะจับคู่กับ แดนนี่ เวลเบ็ค ส่วน แอนดี้ คาร์โรลล์ กองหน้าจากลิเวอร์พูล ที่เป็นคนทำประตูแรกในเกมชนะ สวีเดน จะกลับไปนั่งเป็นตัวสำรอง ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างไรก็ตาม ฮ็อจสัน ต้องรอเช็กอาการบาดเจ็บ ของ ธีโอ วัลค็อตต์ นักเตะจากอาร์เซน่อล ที่มีอาการบาดเจ็บที่ขาจากเกมที่ชนะ สวีเดน
ขณะที่ทางฝังสวีเดน ของ โอเล็ก บล็อกคิ่น ต้องรอลุ้นความพร้อมของ อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าคนสำคัญที่ยังมีอาการบาดเจ็บจากเกมที่แพ้ ฝรั่งเศส ในนัดล่าสุด ขณะที่ตำแหน่งอื่น ๆ ไม่น่าจะมีปัญหา โดย เชฟเชนโก้ น่าจะได้ยืนกองหน้าคู่กับ อังเดร โวโรนิน ส่วนกองกลาง จะมีอังเดร เยโมเรนโก้ และ อนาโตลี ติโมชุก
สถิติที่เจอกันของทั้ง 2 ทีม เจอกันมาทั้งหมด 4 ครั้ง อังกฤษ ชนะ 3 ครั้งและแพ้ 1 ครั้ง อังกฤษ ยิงได้ 7 เสีย 2 ประตู โดยอังกฤษ แพ้ ยูเครน นัดล่าสุดในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 2010
ขณะที่อีกคู่ ฝรั่งเศส ของ โรลอง บล็องค์ เล่นมา 2 นัด ชนะ 1 และ เสมอ 1 มี 4 คะแนน ส่วน สวีเดน แพ้ 2 นัดรวดไม่มีคะแนน ตกรอบแน่นอนแล้ว
ความพร้อมของฝรั่งเศส ไม่มีตัวหลักบาดเจ็บจาก 2 เกมที่ผ่านมา โดย กองหน้า จะเป็น คาริม เบนเซม่า เหมือนเดิม ส่วนกองกลาง จะมี ฟร้องค์ ริเบรี่, ซาเมียร์ นาสรี่, เจเรมี่ เมเนส ส่วนกองหลัง เป็นการยืนคู่กันของ ฟิลลิปป์ แม็กแซส กับ อาดิลล์ รามี่
ทางฝั่งของ สวีเดน ของ เอริก ฮัมเรน ก็ไม่มีปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเช่นกัน โดยเกมนี้ จะมี ชลาตัน อิบราฮิมโมวิช, คิม คัลสตรอม, โอล่า ตอยโวเน่น, และ โอลอฟ เมลเบิร์ก สถิติการเจอกัน 5 นัดหลังสุด ฝรั่งเศส ชนะ 2 นัดและเสมอกัน 3 นัด โดยทั้ง 2 คู่ จะลงเล่นเวลา 01.45น.พร้อมกัน
นอกจากนี้ เอริก ฮัมเรน ให้สัมภาษณ์ก่อนลงแข่งขันว่าจะไม่ยอมให้ฝรั่งเศสชนะง่าย ๆ และจะพยายามเล่นอย่างเต็มที่เพื่อมีคะแนนติดมือแม้จะตกรอบแล้วก็ตาม