“เกษตรพันธสัญญา” กลไกเกษตรกรที่ต้องสร้างความยุติธรรม
คณะทำงานเครือข่ายเกษตรพันธสัญญาที่ประกอบด้วยนักวิชาการจากสถาบันการศึกษา องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรชาวบ้าน และผู้ได้รับผลกระทบจากระบบเกษตรพันธสัญญาได้ร่วมกันแถลงในการจัดสัมมนาทางวิชาการเกษตรพันธสัญญาประจำปี 2555 “เกษตรพันธสัญญา ใครอิ่ม ใครอด?” 26-27 มิ.ย ที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
นายอุบล อยู่หว้า ผู้ประสานงานคณะทำงานเครือข่ายเกษตรพันธสัญญาได้แถลงว่า ระบบเกษตรพันธสัญญา คือ การชักชวนให้เกษตรกรรายย่อยเข้าร่วมทำการผลิตโดยมีข้อผูกพันกับบริษัท ผู้ประกอบการได้ใช้ระบบนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการลงทุนที่ครอบคลุมหลายสาขาการผลิตทางการเกษตร นับตั้งแต่การเลี้ยงหมู เลี้ยงไก่ ปลูกผัก เลี้ยงปลา เป็นต้น ระบบการผลิตดังกล่าว ถูกนำเสนอผ่านการรับรู้ของสาธารณะ ในฐานะเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพ ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การแก้ปัญหาตลาดสินค้าการเกษตรกรของประเทศ ไปจนถึงการแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกร โดยได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งระบบดังกล่าวมีการขยายตัวไปอย่างกว้างขวาง
แต่ในความเป็นจริงไม่ได้มีกลไกภาครัฐ กฎหมายและนโยบายที่จะกำกับดูแลให้เกิดความเป็นธรรมกับเกษตรกรที่เข้าร่วมการผลิตในระบบนี้ ขณะเดียวกันภาคสาธารณะและสังคมก็ไม่ได้รับรู้ข้อเท็จจริงที่เป็นอยู่ของระบบการผลิตนี้ ทั้งในด้านความปลอดภัยในตัวของผลผลิต ขบวนการผลิตทำลายสภาพแวดล้อมหรือไม่ ระบบการผลิตนี้มีการเอารัดเอาเปรียบผู้ผลิตหรือไม่ ผลผลิตที่ได้มีหลักประกันความปลอดภัยของผู้บริโภคหรือไม่ ประเด็นเหล่านี้ ล้วนแต่ยังต้องการการทำความจริงให้เกิดความประจักษ์ในทุกแง่มุม อย่างรอบด้าน ทั้งประสิทธิภาพในการผลิต ความรับผิดชอบต่อสังคมสิ่งแวดล้อม และความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคและเกษตรกร ขณะที่การผลิตในระบบพันธะสัญญาครอบครองสัดส่วนของผลผลิตอาหารที่ตอบสนองการบริโภคของประชาชนในสัดส่วนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ระบบห่วงโซ่อาหารของสังคม ถูกรวมศูนย์ภายใต้การผลิตของบริษัทการเกษตรขนาดใหญ่ ขณะที่ข้อเท็จจริงของการผลิตยังพร่ามัวจาการรับรู้ของสังคม
คณะทำงานเครือข่ายเกษตรพันธสัญญา ที่ประกอบด้วย เครือข่ายเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชัง เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือกภาคอีสาน มูลนิธิชีววิถี สถาบันชุมชนเพื่อเกษตรกรรมยั่งยืน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นักวิชาการจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม คณะรัฐศาสตร์ และสถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงาน สสส. จึงได้จัดให้มีการจัดสัมมนาทางวิชาการเกษตรพันธสัญญาประจำปี 2555 “เกษตรพันธสัญญา ใครอิ่ม ใครอด?” ในวันที่ 26-27 มิถุนายน 2555 ณ ห้องประชุมจุมภฎ-พันธุ์ทิพย์ อาคารประชาธิปก-รำไพพรรณี คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในการสัมมนาดังกล่าวจะระดมการศึกษาจากแง่มุมทางวิชาการ ทั้งทางด้านกฎหมายและผลกระทบเชิงสังคม สิ่งแวดล้อม และข้อเท็จจริงจากวิถีชีวิตของเกษตรกร ที่เกิดภายใต้ระบบการผลิตแบบพันธสัญญา เพื่อนำเสนอสู่การรับรู้ของสาธารณะและร่วมกันขบคิด และการแสวงหาทางออกร่วมกันในอนาคต และมีข้อเสนอระดับปฏิบัติและนโยบายเพื่อการสร้างระบบเกษตรพันธสัญญาที่เป็นธรรม ที่เหมาะสมและการอยู่ร่วมกัน
ขณะที่ นายไพสิฐ พานิชย์กุล นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชนจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แถลงว่า จากการวิจัยของนักวิชาการพบว่า ระบบเกษตรพันธสัญญาเป็นการลงทุนโดยไม่ลงทุน แต่ที่ผ่านมาสังคมไม่ได้มีการพูดถึงความไม่เป็นธรรมภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา อีกทั้งยังมีผู้ที่ได้รับผลกระทบในระยะยาวโดยเฉพาะการผลิตแบบนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในแง่ความมั่นคงทางด้านอาหาร ขณะที่รัฐเองก็ไม่ได้เข้ามาดูแลเรื่องกลไกในการคุ้มครองผู้ที่ได้รับผลกระทบเท่าที่ควร
เครือข่ายเกษตรพันธสัญญาจึงจัดสัมมนา เพื่อจะเสนอต้องสร้างกลไกเชิงสถาบันภายในระดับพื้นที่ การทำให้เกษตรกรเข้าถึงระบบการเกษตรที่ดี และการทำให้เกิดยุติธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสังคม ผู้บริโภค และตัวเกษตรกร สามารถบริหารควบคุมให้เป็นไปสัญญาบนฐานข้อมูลที่เป็นธรรม การแทรกแซงกลไกตลาดในกรณีที่เกิดการผูกขาดจากธุรกิจอุตสาหกรรมการเกษตร
ที่สำคัญจำเป็นต้องพัฒนาระบบ “ยุติธรรมชุมชน” มาปรับใช้ในระบบเกษตรพันธสัญญา ซึ่งประเด็นนี้เป็นประเด็นที่สำคัญที่จะมีการหารือร่วมกันในการจัดสัมมนาดังกล่าว เนื่องจากเป็นประเด็นที่จะนำไปสู่ทางออกร่วมกันในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมจากระบบเกษตรพันธสัญญา