นัดต้านสินค้า
ผู้บริโภคประกาศหยุดซื้อ หยุดฟัง หยุดชม หยุดมีส่วนร่วมทุกสินค้าและธุรกิจของบริษัทแกรมมี่ พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมเป็นผู้ฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน เพื่อขอคุ้มครองก่อนฟ้องแก้ปัญหาการละเมิดสิทธิพื้นฐานผู้บริโภค ทำฟรีทีวีจอดำ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค องค์กรผู้บริโภค สมาชิกผู้บริโภค อาสาสมัครขององค์กรผู้บริโภคทุกจังหวัดทั่วประเทศ ประกาศหยุดซื้อ หยุดฟัง หยุดชม หยุดมีส่วนร่วมทุกสินค้าและธุรกิจของบริษัทแกรมมี่ นอกจากนี้พร้อมเชิญชวนผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายไม่สามารถดูฟรีทีวีช่อง ๓,๕ และ๙ ร่วมกันฟ้องต่อศาลแพ่งวันจันทร์ที่ 25 ที่ศาลแพ่งถนนรัชดาภิเษกเวลา 11.00 น. พร้อมชี้แจ้ง 5 เหตุผลที่ต้องหยุดใช้สินค้าของแกรมมี่
1. แกรมมี่เป็นผู้ประกอบการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่ไปทำสัญญาการถ่ายทอดสดฟุตบอลยูโรแล้วทำให้ประชาชนครึ่งประเทศเข้าไม่ถึง บริการสาธารณะในการแพร่ภาพและกระจายเสียง(ดูฟรีทีวี)ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้น ฐานของผู้บริโภค
2. แกรมมี่ใช้เล่ห์เหลี่ยมทางธุรกิจกีดกันกันเข้าถึงสิทธิพื้นฐานของผู้บริโภคใน การรับฟรีทีวีเพื่อให้ได้มาซึ่งการขยายฐานลูกค้าและช่องทางการจำหน่ายสินค้า ของตนเอง(กล่อง)เป็นธุรกิจที่คำนึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง
3. แกรมมี่สมคบกับช่อง 3, 5 และ 9 ทำธุรกิจเอาเปรียบผู้บริโภค
4 ทำให้ผู้บริโภคเสียหายต้องจ่ายเงินโดยไม่มีความจำเป็นมากถึง ๒,๐๐๐ ล้านบาท
5 เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่างกับเอกชนที่ต้องการจะไปทำสัญญาการค้าในอนาคต
โดยนายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการและนักกฎหมายอิสระกล่าวว่า กรณีดังกล่าว ถือว่าหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแลอย่าง กสทช.ทำหน้าที่ล้มเหลวเพราะการที่ผู้ประกอบการแสดงพฤติกรรมเช่นนี้เป็นการ จำกัดสิทธิการเข้าถึงสื่ออย่างทั่วถึงตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 47 ทั้งในส่วนของแกรมมี่ ช่อง 3,5,9 เพราะหน้าที่ของทีวีช่องหลัก หรือฟรีทีวีต้องถ่ายทอดและปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองโดยไม่ยึดตามสัญญาของฝ่าย ใดฝ่ายหนึ่ง ดังนั้นแนวทางการแก้ไขเรื่องนี้คือต้องใช้กระบวนการยุติธรรมเท่านั้น เพราะตอนนี้ความผิดได้สำเร็จแล้ว เพื่อสร้างมาตรฐานสำหรับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเช่น ฟุตบอลโลกที่กำลังจะมีขึ้น
นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคจำนวน 11 ล้านครัวเรือนถูกละเมิดสิทธิการดูฟรีทีวี ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานแล้วหน่วยงานที่กำกับดูแลก็ไม่สามารถจัดการปัญหา ได้ ล้มเหลว ไม่มีน้ำยา ผู้บริโภคจึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องตัวเอง องค์กรผู้บริโภคทั่วประเทศจึงมีมติร่วมกัน ๒ ประเด็นคือ หนึ่งหยุดสนับสนุนธุรกิจของบริษัทแกรมมี่ทุกประเภท และสองดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อขอคุ้มครองก่อนมีคำพิพากษา ให้สามารถคุ้มครองการละเมิดสิทธิผู้บริโภคครั้งสำคัญครั้งนี้ได้
ด้าน นางสาวบุญยืน ศิริธรรม ประธานสหพันธ์องค์กรผู้บริโภคกล่าวเชิญชวนผู้บริโภคมาใช้สิทธิตอบโต้ธุรกิจ ที่ขาดธรรมาภิบาล จงใจสมคบกันละเมิดสิทธิผู้บริโภค โดยการหยุดซื้อหยุดฟังหยุดชมหยุดสนับสนุนสินค้าและบริการในเครือข่ายของแกรม มี่ทุกชนิดเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างกับธุรกิจรายอื่นๆมิให้กระทำการละเมิดสิทธิ ผู้บริโภคในการเข้าถึงสิทธิขั้นพื้นฐานเฉกเช่นที่แกรมมี่กระทำอยู่