ภาคประมงประสบปัญหาค้ามนุษย์ หลังขาดแคลนแรงงาน
นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ เปิดเผยถึง สถานการณ์การบังคับใช้แรงงานในภาคการประมงว่า หลังได้รับการร้องเรียนจากแรงงานที่ถูกล่อลวง และบังคับให้ทำงานโดยไม่สมัครใจมากกว่า 40 กรณี ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา โดยมีลักษณะการล่อลวงผ่านกระบวนการนายหน้า เช่น บอกกับผู้เสียหายว่า มีงานสบายรายได้ดีให้ทำ หรือ ชักชวนให้มาทำงานประมง แต่หลอกว่าเป็นประมงชายฝั่งที่ออกไปจับปลากลางทะเลในระยะเวลาสั้น โดยนายหน้าจะนำตัวแรงงานไปขายต่อให้ผู้ควบคุมเรือในราคาตั้งแต่ 7,000 - 30,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีการบังคับแรงงานในลักษณะแรงงานขัดหนี้ โดยให้ลูกเรือประมงเข้าไปใช้บริการร้านคาราโอเกะ และติดเครดิตกับทางร้านได้ หลังจากนั้นก็ให้แรงงานไปทำงานใช้หนี้ร้านคาราโอเกะ มูลค่าหนี้ตั้งแต่ 12,000 - 30,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่แพงเกินกว่าความเป็นจริงที่จะต้องจ่าย
สถานการณ์ขาดแคลนแรงงานภาคประมงกว่า 70,000 อัตรา ยิ่งทำให้ปัญหาการค้ามนุษย์ในแรงงานภาคประมงรุนแรงขึ้น แม้จะมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาแนวทางและมาตรการในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และเสนอให้จัดตั้งศูนย์จัดหาแรงงานเพื่อทำงานในเรือประมง มากว่า 2 ปีแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม จึงเสนอให้แก้ปัญหาด้วยการสร้างแรงจูงใจในการให้ผลตอบแทนที่สูงกว่างานกรรมกรรับจ้างทั่วไป และจัดระบบการจ้างงานที่เป็นธรรมให้กับลูกจ้าง รวมถึงมีระบบการขึ้นทะเบียนเรือประมงและลูกเรือประมงที่ถูกต้อง สามารถตรวจสอบได้