"ก้อนหินลอย" ศิลปะแนวใหม่ในแอลเอ ที่ต้องมองจากด้านล่าง

ศิลปะมุมมองใหม่ ที่จัดแสดงที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะลอส แองเจลิส แตกต่างจากงานประติมากรรมส่วนใหญ่มักจะชมกันไม่ทางด้านหน้าก็ด้านข้าง แต่งานแสดงศิลปะนี้ จะเห็นมุมมองที่แตกต่างไปด้วยการชมจากด้านล่าง ซึ่งผู้ชมต้องเดินลอดเส้นทางที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับก้อนหินขนาดยักษ์

ชาวลอส แองเจลิสนับพัน มารวมตัวกันหน้าพิพิธภัณฑ์ศิลปะลอส แองเจลิส เพื่อชมงานศิลปะจัดวางที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีมา เมื่อก้อนหินแกรนิตน้ำหนักกว่า 340 ตันถูกนำมาวางเหนือช่องทางเดินที่ขุดลงไปในพื้นดิน เพื่อให้ผู้ชมที่เดินลอดรู้สึกเหมือนก้อนหินยักษ์กำลังลอยอยู่เหนือศีรษะ ตามแนวคิดงานในชื่อ Levitated Mass ผลงานล่าสุดของ ไมเคิล ไฮเซอร์ ศิลปินร่วมสมัยวัย 68 ปีผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิศิลป์

แนวคิดในการสร้าง Levitated Mass อยู่ในใจของไฮเซอร์มากว่า 40 ปี จนกระทั่งพบหินที่เหมาะสมในเหมืองแร่ของเมืองริเวอร์ไซด์ แคลิฟอร์เนีย เขาจึงฟื้นโครงการหลังได้รับการสนับสนุนจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะลอส แองเจลิสที่เรี่ยไรเงินบริจาคกว่า 10 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ไปกับการขนส่งก้อนหินยักษ์ด้วยขบวนรถบรรทุก 196 ล้อ ที่สร้างขึ้นสำหรับการขนหินงานนี้ โดยเดินทางเฉพาะเวลากลางคืนด้วยความเร็วเพียง 7 ไมล์ต่อชั่วโมง ตลอด 11 วันของการเดินทางกว่า 107 ไมล์ ต้องมีการตัดต้นไม้และเคลื่อนย้ายสัญญาณไฟหลายแห่งที่ก้อนหินยักษ์นี้เดินทางผ่าน

แม้ถูกวิจารณ์ในสังคมออนไลน์ว่าเป็นการเรียกร้องความสนใจ แต่ผู้ชมที่ร่วมเปิดงานส่วนใหญ่ต่างทึ่งไปกับความอลังการของงานประติมากรรมชิ้นนี้ โดยทางพิพิธภัณฑ์กล่าวว่าเป็นงานศิลปะที่สะท้อนวัฒนธรรมการสร้างงานศิลปะจากก้อนหินขนาดใหญ่แต่โบราณ ผสานกับเทคโนโลยีด้านวิศวกรรมสมัยใหญ่และแนวคิดด้านเรขาคณิตเชิงนามธรรม ซึ่งตั้งความหวังว่าก้อนหินยักษ์นี้จะจัดแสดงอยู่กับพิพิธภัณฑ์อย่างถาวรไปอีกนับพันปี

ไมเคิล ไฮเซอร์ เป็นหนึ่งในศิลปินที่สร้างผลงานในแนวภูมิศิลป์ เชื่อว่าศิลปะและภูมิทัศน์มีความสัมพันธ์กันอย่างแยกไม่ออก งานส่วนใหญ่จึงสร้างในสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ โดยงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของเขาได้แก่ Double Negative กับการขุดร่องดินบริเวณหุบเขากลางทะเลทรายในเนวาด้า ด้วยความยาว 1,500 ฟุตและความลึก 50 ฟุต ที่มองเห็นได้แม้ภาพถ่ายจากดาวเทียม