หลังผ่านกระบวนการไต่สวนและรอฟังคำวินิจฉัยคดีแก้รัฐธรรมนูญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นต่อแนวทางการวินิจฉัยคดี และจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้คิดถึงผลการวินิจฉัยว่า จะเข้าข่ายกระทำผิดในระดับที่ต้องพิจารณาสั่งการยุบพรรคเพื่อไทย แต่กล่าวย้ำว่า การดำเนินการทั้งหมดเป็นอำนาจของรัฐสภา หากผลการวินิจฉัยยกคำร้องเป็นอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาที่จะพิจารณาเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญต่อไป
ขณะเดียวกัน ระบุว่า รัฐบาลไม่มีเจตนาในการผลักดันกระบวนการล้มล้างการปกครองตามข้อกล่าวหาของคดี พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีถึงกรณีที่มีข้อสังเกตว่าผลการวินิจฉัยจะเชื่อมโยงถึงการตัดสินใจปรับ ครม.
ส่วนฝ่ายผู้ร้อง โดย พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา กล่าวแสดงความพร้อมยอมรับคำวินิจฉัยคดีแก้รัฐธรรมนูญไม่ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร เพราะถือว่า ได้ทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญตามที่กฎหมายให้สิทธิและเสรีภาพแล้ว
โดยคดีแก้รัฐธรรมนูญตามคำร้องมาตรา 68 กล่าวหารัฐสภาดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา291 เพื่อจัดตั้ง ส.ส.ร.ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เป็นการได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่ใช่วิถีทางตามรัฐธรรมนูญเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง โดยหลังการไต่สวนเบิกความพยานในคดีของทั้ง 2ฝ่ายใน 2วัน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดส่งคำแถลงปิดคดีภายในวันที่11.ก. และนัดฟังคำวินิจฉัยคดีในวันที่ 13 ก.ค.นี้