ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

วิเคราะห์ 4 แนวทางในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

10 ก.ค. 55
14:23
21
Logo Thai PBS
วิเคราะห์ 4 แนวทางในการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

วันพรุ่งนี้ ( 10 ก.ค.) ก่อนปิดทำการผู้ร้องและผู้ถูกร้องเตรียมส่งคำแถลงปิดคดีแก้รัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษรต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยสาระสำคัญนั้นนอกจากการประมวลข้อมูลข้อเท็จจริงแล้วยังต้องอ้างอิงข้อกฎหมายและพยานหลักฐาน เพื่อชี้แจงความชัดเจนให้มากที่สุด โดยเฉพาะการชี้แจงให้เข้ากับขอบข่ายอำนาจการวินิจฉัย 4 ประเด็น ที่ศาลรัฐธรรมนูญแถลงไว้ก่อนหน้านี้ และ ด้วยเนื้อหาทั้งหมด สามารถวิเคราะห์ได้ถึงแนวทางการวินิจฉัยคดี

ฝ่ายผู้ร้อง 5 คนเตรียมยื่นคำแถลงปิดคดีแก้รัฐธรรมนูญต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันพรุ่งนี้ ( 11 ก.ค.) ในเวลา16 .30 น.โดยนายวิรัตน์ กัลยาศิริ พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า คำแถลงปิดคดีจะเน้นย้ำ 4 ประเด็นด้วยกัน คือ การได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือการล้มล้างรัฐธรรมนูญปี 2550 และ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี จะต้องใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญใหม่ถือเป็นการได้มาซึ่งอำนาจที่ไม่ใช่วิถีทางตามรัฐธรรมนูญ

ขณะเดียวกันจะชี้ให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทย กลุ่ม นปช. และ บุคคลแวดล้อมตามพยานหลักฐานที่เป็นคลิปภาพและเสียง มีเจตนาของการล้มล้างการปกครองเหมือนกัน โดยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาอยู่ใต้อาณัติของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

  

<"">
  
<"">

ขณะที่ฝ่ายผู้ถูกร้อง นายวัฒนา เซ่งไพเราะ หัวหน้าทีมกฎหมายประธานรัฐสภา และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ย้ำตรงกันว่า คำแถลงปิดคดีของรัฐบาล รัฐสภาและพรรคเพื่อไทย จะส่งศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15.00 น.วันพรุ่งนี้ โดยสาระสำคัญจะต้องชี้ว่าการแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เป็นอำนาจโดยชอบของรัฐสภา และการดำเนินการถือว่าไม่ขัดต่อมาตรา 68 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในหมวดพิทักษ์รัฐธรรมนูญ

และการแก้มาตรา 291 เพื่อจัดตั้งส.ส.ร. คือการใช้อำนาจของส.ส.และส.ว.ที่เป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ส่วนอำนาจการวินิจฉัยร่างรัฐธรรมนูญในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ บัญญัตไว้ชัด ว่าประธานรัฐสภา จะต้องตั้งคณะกรรมการและผู้ทรงคุณวุฒิร่วมพิจารณาด้วย

ผู้ร้องและผู้ถูกร้องต่างออกมาแสดงความเชื่อมั่นในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในทิศทางที่หลากหลายออกไป หากแต่เมื่อเทียบกับกรอบการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ 4 ประเด็น เชื่อได้ว่าจะมีแนวทางหลัก 2 ทางและแนวทางย่อยอีก 2 แนวทาง

แนวทางหลัก แนวทางแรก คือ การวินิจฉัย “ยกคำร้อง”จะมีด้วยกัน 3 เหตุผล คือ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญลงมติด้วยเสียงที่เท่ากัน,การแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ไม่ขัดมาตรา 68 และเหตุผลสุดท้ายคือข้อเท็จจริงไม่เพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง

แนวทางหลัก แนวทางที่ 2 คือ กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68 ด้วยเหตุที่รัฐสภาใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจและถือเป็นการล้มล้างการปกครอง เพราะการแก้ มาตรา 291 โดยรัฐธรรมนูญให้แก้รายมาตราและต้องแก้ด้วยอำนาจของ ครม.ส.ส.และส.ว. ไม่ใช่การตั้งส.ส.ร.ขึ้นมายกร่างใหม่ทั้งฉบับ

และเมื่อวินิจฉัยว่ากระทำผิดจะอาจต้องมีแนวทางการวินิจฉัยย่อมออกไป 2 แนวทางด้วยกันค่ะ คือ กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญ ขัดมาตรา 68 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง แต่แนวทางแรกจะไม่ถึงขั้นยุบพรรคการเมือง เพราะพฤติการณ์ไม่ได้ร้ายแรง และยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ และ การลงมติเป็นเอกสิทธิ์ของส.ส.

  
<"">
  
<"">

แต่แนวทางที่ 2 อาจถึงขั้นต้องยุบพรรค หากเชื่อได้ว่า พฤติการณ์ร้ายแรง โดยส่อเจตนาล้มล้างการปกครอง โดยเฉพาะเมื่อต้องพิจารณาคู่ขนานไปกับคลิปพยานแวดล้อมที่ฝ่ายผู้ร้องยื่นต่อศาล ขณะที่เดียวกันชี้ได้ว่า ส.ส.ลงมติด้วยนโยบายของพรรค

หากคิดตามสูตรวินิจฉัยแบบ 2 หลัก 2 ย่อย ยังมีตอนที่ 2 สำหรับคดีแก้รัฐธรรมนูญ เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยอำนาจสมาชิกรัฐสภาในการลงมติแก้รัฐธรรมนูญและผู้ร่วมพิจารณาหรือแปรญัตติด้วย

วันที่ 2 และ 3 กรกฎาคม ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของกลุ่มพันธมิตรและนายเรืองไกร กรณียื่นถอดถอดสมาชิกรัฐสภา ที่ร่วมลงมติรับหลักการ ลงมติวาระ 2 หรือ รายมาตราของร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ รวม 416 คน และ ร่วมเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญแปรญัตติ ตลอดจนผู้อภิปรายแปรญัตติ ตามขั้นตอนของรัฐสภา อีก 317 คน 

ซึ่งมี ส.ส.ของทุกพรรคการเมือง และ มี ส.ว. บางคนเท่านั้น และ ส.ส.หรือ ส.ว.บางคนในจำนวนนี้กลายเป็นผู้ถูกร้องของทั้ง 2 คดีด้วย และ ทั้งหมดคือตอน 2 ที่ว่า เพราะศาลรัฐธรรมนูญ จะต้องพิจารณาคู่ขนานไปด้วยหากผลการวินิจฉัยชี้ชัดว่าการแก้รัฐธรรมนูญขัดมาตรา 68

นอกจากนั้นวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมานายเรืองไกร ยังได้ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้วินิจฉัยสั่งยุบพรรคเพื่อไทยพรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติพัฒนา และพรรคพลังชล รวมถึงขอให้ตรวจสอบ 2 องค์กรอิสระ ประกอบด้วย ผู้ตรวจการแผ่นดิน และคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการแก้รัฐธรรรมนูญด้วย

การวิเคราะห์แนวทางการวินิจฉัยอ้างอิงขั้นตอนและกรอบ 4 ประเด็นที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแถลงไว้มีทั้งที่เป็นบวกและเป็นลบ แต่ไม่ว่าจะบวก ย่อมส่งผลถึงเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลและรัฐสภา

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง