ชีวิต 2 ด้านของนักบุญคนบาป พาโบล เอสโคบาร์ เจ้าพ่อค้ายาผู้อื้อฉาวแห่งโคลอมเบีย ที่ถูกนำมาตีแผ่อย่างเจาะลึกในละครโทรทัศน์เรื่อง Pablo Escobar: Boss of Evil อำนวยการสร้างโดย 2 ทายาทของผู้ที่เป็นเหยื่อความรุนแรงสมัยที่เอสโคบาร์ครองอำนาจในโคลัมเบียเป็นเวลากว่า 20 ปี ซึ่งเมื่อยามมีชีวิตอยู่ เขาถูกคนทั้งชาติตราหน้าเป็นฆาตกร อยู่เบื้องหลังการสังหารและลักพาตัวผู้คนมากมาย แต่พอถึงวันตาย ถูกปลิดชีพจบชีวิตด้วยวัย 44 ปี โดยฝีมือของตำรวจเมื่อปี 1993 กลับมีผู้คนไม่น้อยอาลัยการจากไปของเจ้าพ่อที่นำเงินจากการค้ายาไปสร้างบ้าน โรงเรียน โรงพยาบาล โบสถ์ และสนามฟุตบอลนับไม่ถ้วน
พาโบล เอสโคบาร์ เป็นที่รู้จักจากการจัดตั้งเครือข่ายค้ายาเสพติด และทำให้โคเคนกลายเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของโคลัมเบียแซงหน้ากาแฟ แม้การก้าวสู่เวทีการเมืองช่วงสั้นๆในปีต่อมาจะสร้างภาพลักษณ์นักบุญคนยากจากนโยบายประชานิยมช่วยเหลือชุมชนแออัด แต่เขาคือผู้อยู่เบื้องหลังคดีอาญานับพันคดี ทั้งการสังหารผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และคดีวางระเบิดสายการบินและอาคารรัฐบาล
ทั้งนี้คามิโล คาโน 1 ในผู้อำนวยการสร้างละครโทรทัศน์เรื่องนี้ คือลูกชายของอดีตบรรณาธิการข่าวที่ถูกเอสโคบาร์สังหาร กล่าวว่าเป็นเรื่องลำบากใจไม่น้อยที่ต้องเห็นพ่อของเขากลับมาถูกฆ่าอีกครั้ง และนับเป็นครั้งแรกที่มีการสะท้อนมุมมองของผู้คนที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของเอสโคบาร์ ขณะที่ ฮวนน่า ยูริเบ้ โค-โปรดิวเซอร์ ผู้ที่มารดาเคยถูกเอสโคบาร์ลักพาตัวไปครึ่งปี บอกว่าละครช่วยให้บทเรียนแก่ผู้ชมเห็นถึงความเลวร้ายของผู้มีอำนาจเหนือกฎหมายและการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม Pablo Escobar: Boss of Evil สร้างปรากฏการณ์เป็นละครโทรทัศน์ของโคลัมเบียที่มีทุนสร้างสูงที่สุด และครองแชมป์เรตติ้ง รวมถึงได้รับคำยกย่องจากนักวิจารณ์ แต่สำหรับผู้ชมในเมืองเอนวิกาโด้ บ้านเกิดของเอสโคบาร์ กลับมีความเห็นต่อละครเรื่องนี้อย่างหลากหลาย ส่วนหนึ่งชื่นชอบมุมมองรอบด้านที่ละครนำเสนอ แต่บางคนซึ่งเติบโตมากับความรุนแรงที่เอสโคบาร์ก่อไว้ ก็รับไม่ได้กับการนำเสนอที่สมจริงและไม่ต้องการให้เด็กๆ รุ่นหลังได้เห็นสิ่งเหล่านั้นอีก