เอกชนคลายกังวลหลังศาล รธน. ยกคำร้อง
นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตระกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า ผลการพิจารณาของศาลจะช่วยผ่อนคลายความกังวลลงได้ระดับหนึ่ง และลดกระแสการเคลื่อนไหวของบางกลุ่มลงได้ แต่ก็อาจจะสร้างความไม่พอใจของคนอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ขอทุกฝ่ายยอมรับผลที่เกิดขึ้น พร้อมเห็นว่าหลังจากนี้ รัฐบาลควรใช้โอกาสนี้เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องของการเมือง
ส่วนนายไพบูลย์ พลสุวรรณา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เชื่อว่าไทยจะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และหวังว่าทุกฝ่ายจะเห็นแก่ประเทศชาติ และร่วมมือกันพัฒนาประเทศ พร้อมประเมินว่าเห็นว่าหากการเมืองมีเสถียรภาพ ก็จะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้ในระดับหนึ่ง โดยคาดว่าภาคการส่งออกทั้งปีจะอยู่ที่ ร้อยละ 12
ขณะที่นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่วางใจ เพราะต้องติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อ โดยเฉพาะความพยายามการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่อาจจุดฉนวนความขัดแย้งได้อีก พร้อมระบุว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย ในปีนี้อาจไม่เป็นไปตามเป้า เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยลบหลายประการ
ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจเเละธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เห็นเช่นกันว่ายังคงต้องติดตามว่าฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเดินหน้าอย่างไร แต่หากหลังจากนี้ไม่เกิดความวุ่นวาย เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 จะขยายตัวได้ที่ร้อย 5-6 ตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ สิ่งที่ภาคเอกชนต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือ ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยนอกจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศแล้ว วิกฤตเศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐ ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงกดต่อเศรษฐกิจของประเทศ