มองภาวะเศรษฐกิจไทยผ่านสายตา
รัฐบาลไทยไม่ควรก่อหนี้เกินร้อยละ 45 ของจีดีพี และต้องเฝ้าระวังการขาดดุลการคลัง ถือเป็นคำแนะนำที่มีความหมายสำคัญของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ หน่วยงานที่มีบทบาทในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ 188 ประเทศ
ในขณะที่ไทยมีแนวคิดจะกู้เงินเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอีก 1.6 ล้านล้านบาท - 2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะทำให้หนี้สาธารณะปรับขึ้นไปอยู่เฉียด ๆ ร้อยละ 50 ของจีดีพี
แม้ไอเอ็มเอฟ ประเมินภาพรวมของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ดีกว่าปีที่แล้ว (2554) โดยจะขยายตัวร้อยละ 5 - 6 แต่ไทยเลี่ยงไม่ได้ที่อาจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐและยุโรป ที่ฉุดเศรษฐกิจทั่วโลกให้ชะลอตัวลง โดยเฉพาะจีนและอินเดีย เศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ในฝั่งตะวันออก ที่หลายฝ่ายฝากความหวังต่อการทำหน้าที่ฟื้นเศรษฐกิจโลก
โดยในวันที่ 16 ก.ค.ไอเอ็มเอฟ เตรียมทบทวนอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก โดยมี 2 ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อภูมิภาคเอเชีย นั่นคือ แนวโน้มการขยายเพดานการก่อหนี้ของสหรัฐฯ ซึ่งจะทำให้มีปริมาณเงินไหลเข้าเอเชียมากขึ้น และ ความไม่ชัดเจนในการแก้ปัญหาหนี้ในยุโรป
นางลาการ์ด มองว่าที่ผ่านมา ไทยดำเนินนโยบายการเงินได้เป็นอย่างดี อย่างเช่นการควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ที่ต้องยกประโยชน์ให้กับธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ควบคุมทิศทางของเศรษฐกิจไทยได้มีประสิทธิภาพ พร้อมนี้ยังให้ความเห็นต่อทิศทางเศรษฐกิจในระยะยาวของไทยจะเป็นอย่างไร จะต้องขึ้นอยู่กับแผนการลงทุนอย่างยั่งยืน