เปิดบ้านพิพิธภัณฑ์หลังน้ำท่วม 
ลดความเป็นกรดจากน้ำเน่าเสียที่ทำลายกระดาษโดยแช่น้ำเปล่า ก่อนนำมาล้างแอลกอฮอล์เพื่อฆ่าเชื้อรา ก็สามารถกู้กระดาษหัวแผงของเล่นกลับคืนมาได้หลังจากแช่น้ำนานนับเดือน โชคดีที่ลายเส้นยังคงเห็นชัดบอกได้ถึงความนิยมในของเล่นของเด็กไทยเมื่อ 40 กว่าปีก่อน น้ำที่ท่วมสูง และขังนาน ทำให้ของสะสมที่เป็นกระดาษเสียหายไปกว่าร้อยละ 90 ส่วนงานสังกะสีก็ต้องทิ้งไปกว่าครึ่ง ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเห็นจะเป็นของเล่นพลาสติก เพียงทำความสะอาดก็นำกลับมาจัดแสดงได้อีกครั้ง เกือบ 9 เดือนที่บ้านพิพิธภัณฑ์ต้องปิดลงเพื่อซ่อมแซมของสะสม และปรับปรุงพื้นที่ก่อนเปิดให้เข้าชม
แท่นวัดระดับน้ำท่วมสูงถึง 160 เซนติเมตร นอกจากจะบอกว่าที่นี่เคยเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมที่สูงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ถือเป็นอีกเครื่องบันทึกเรื่องราว ที่ให้ผู้ที่เข้ามาชมได้เห็นของเก่าๆ แล้ว ยังได้ย้อนถึงประวัติศาสตร์น้ำท่วมครั้งรุนแรงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานคร
เครื่องบินของเล่นที่เคยสีสันสวยงาม วันนี้เหลือเพียงโครง และสนิมที่เกาะกินทั้งลำ 1 ในของสะสมที่เสียหายจากน้ำท่วม และถูกแยกจัดแสดงไว้ในตู้เล็กๆ หลายชิ้นแทบไม่เหลือเค้าเดิม และไม่สามารถเล่าเรื่องอดีตได้เหมือนเก่า หากสภาพความเสียหายก็เหมือนเครื่องบันทึกเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้น
ความทรงจำแสนสนุกที่เด็กชายตั๊ก หรือนภัสกร มิตรเอม ได้ดีดลูกแก้วเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ถูกบอกเล่าอย่างออกรสให้กับหลานสาวถึงของเล่นยอดนิยมของเด็กผู้ชายสมัยก่อน มาเยือนบ้านพิพิธภัณฑ์ในวันนี้นอกจากได้หวนถึงความสุขในวันวาน ยังได้เห็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนในอดีต
น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปีที่แล้วส่งผลให้พุทธมณฑลสาย 2 จมน้ำเกือบ 2 เมตร ร่วมปีกว่าจะฟื้นคืน ด้วยกำลังใจของเอนก นาวิกมูล ผู้ก่อตั้ง ร่วมด้วยน้ำใจจากทุกภาคส่วน เพื่อให้บ้านพิพิธภัณฑ์ทำหน้าที่ดังที่ได้เป็นมา เวลา 11 ปีที่นักเขียนผู้รักในการสะสมก่อร่างสร้างพิพิธภัณฑ์ รวบรวมความทรงจำในอดีต เพื่อให้ผู้ชมได้ย้อนวันความสุข และเป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังเห็นภาพชีวิตส่วนหนึ่งของคนรุ่นก่อน แม้น้ำจะพัดพาอดีตบางส่วนหายไป แต่สิ่งของสะสมที่ยังหลงเหลือ รวมถึงมีผู้บริจาคใหม่จะช่วยเติมต่อภาพห้วงเวลา 50 ปี ให้ของเก่าไร้ค่ากลับมีความหมายที่บ้านพิพิธภัณฑ์