ขณะที่ฉากก่อการร้ายพบได้ในหนังซูเปอร์ฮีโร่แทบทุกเรื่อง แต่สิ่งที่ซีรีส์มนุษย์ค้างคาวแตกต่างคือเต็มไปด้วยวายร้ายที่สร้างมาจาก บุคลิกของคนที่มีปัญหาทางจิต ทั้ง "โจ๊กเกอร์" นักฆ่าหน้าเปื้อนยิ้มที่สนุกกับการสร้างความวุ่นวายโกลาหล "ริดเดลอร์" ฆาตกรโรคจิตผู้ชอบทิ้งปริศนาในที่เกิดเหตุ "ทูเฟซ" อดีตนายกเทศมนตรี ผู้ผันตัวมาเป็นอาชญากรที่ตัดสินชะตากรรมเหยื่อด้วยการโยนหัวก้อย
จนถึง วายร้ายล่าสุดอย่าง "เบน" อาชญากรผู้เกลียดชังเพื่อนมนุษย์จากประสบการณ์เติบโตมาในคุก แม้แต่พระเอกของเรื่องอย่าง "บรูซ เวย์น" ก็มีที่มาอันมืดหม่น เมื่อต้องกลายเป็นกำพร้าหลังพ่อแม่ถูกสังหารหน้าโรงละคร บ่อยครั้งซีรีสที่แบทแมนโชว์ฉากความรุนแรงเกี่ยวกับโรงหนัง ทั้งในการ์ตูนจนถึงวิดีโอเกม รวมถึงการนำเสนอเนื้อหาด้านมืดในใจมนุษย์อาจ เป็นแรงจูงใจในการก่ออาชญากรรม
หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ทางการสหรัฐฯประกาศถอนโฆษณาภาพยนตร์ The Dark Knight Rises ออกจากสถานีโทรทัศน์ทั้งแบบเครือข่าย และเคเบิลทั่วสหรัฐฯ โดยละครที่มีฉากรุนแรงอย่าง Law & Order: SVU และ The Unit ถูกย้ายจากผังออกอากาศช่วงสุดสัปดาห์ เช่นเดียวกับการถอนตัวอย่างหนังใหม่เรื่อง Gangster Squad ออกจากโรงหนังทั่วประเทศ เนื่องจากมีฉากกลุ่มอาชญากรกราดยิงแฟนหนังจากหลังจอฉายภาพยนตร์
ด้าน AMC เครือข่ายโรงภาพยนตร์อันดับ 2 ของสหรัฐฯ ประกาศห้ามแฟนหนังที่สวมชุดแฟนซีเข้าโรงภาพยนตร์ เพื่อป้องกันการเลียนแบบ โดยสมาคมผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ของสหรัฐฯ เตรียมหารือเรื่องการปรับปรุงกฏหมายและมาตรการความปลอดภัยในโรงหนังกว่าที่ เป็นอยู่ โดย คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้กำกับไตรภาคแบทแมน กล่าวว่าสำหรับเขาโรงภาพยนตร์เปรียบเสมือนบ้านที่มอบความสุขจากการดูหนัง โศกนาฎกรรมครั้งนี้ ได้สร้างความเสียใจต่อทีมงานทุกคนอย่างมาก
ขณะที่ในฝรั่งเศสได้ยกเลิกการจัดฉายรอบปฐมทัศน์ภาพยนตร์เรื่องนี้ ซึ่งแต่เดิมจะมีนักแสดงของเรื่องมาให้สัมภาษณ์โดยให้เหตุผลด้านความปลอดภัย ในเมืองไทย The Dark Knight Rises ได้เรต ท ซึ่งหมายความว่า เปิดโอกาสให้แฟนหนังทุกเพศทุกวัยชมได้อย่างเสรี และถูกมองว่า ไม่เหมาะสมเนื่องจากในสหรัฐฯ กำหนดให้หนังที่เต็มไปด้วยฉากรุนแรงเรื่องนี้อยู่ในเรต pg 13 หรือเยาวชนอายุต่ำกว่าปีจะดูได้ต่อเมื่อมีผู้ปกครองคอยแนะนำเท่านั้น
เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้แฟนหนังมากมายหวาดกลัวการชมภาพยนตร์ในเวลากลางคืน ผู้ปกครองบางคนเลือกการดูหนังอย่างปลอดภัยจากดีวีดีในบ้าน แต่ยังมีผู้ชมจำนวนไม่น้อยยังคงยืนยันไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงเช่นเดิม ด้วยเหตุผลว่า ไม่ต้องการให้ผู้ก่อการร้ายประสบความสำเร็จจากการจากการสร้าง ความโกลาหล ไม่ต่างจากฉากจบของภาพยนตร์ในภาคที่แล้วที่โจ๊กเกอร์ต้องล้มเหลวในการก่อ วินาศกรรม เมื่อผู้คนในเมืองก็อตแธมยังคงยืนหยัดในศรัทธาต่อเพื่อนมนุษย์และไม่ยอมเป็น เหยื่อจากการสร้างความโกลาหลโดยกลุ่มอาชญากร