"ชายคนเดียวในโลกที่ตะโกนไล่หมีสีน้ำตาลยักษ์ได้!" ประโยคที่ฟังดูเหลือเชื่อนี้แหละที่หลาย ๆ คนใช้เมื่อพูดถึง "โอเสะ ฮัตสึซาบุโร่" ชาวประมงวัย 84 ปี ผู้เป็นตัวละครเอกในสารคดี Bearman of Hokkaido ผลงานการกำกับของ ยาอุจิ โทโมฮิโระ สารคดีที่จะพาเราไปพบกับความมหัศจรรย์ของการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์และหมียักษ์แห่งดินแดนอาทิตย์อุทัย
เรื่องราวของลุงโอเสะเกิดขึ้นที่คาบสมุทรชิเรโตโกะบนเกาะฮอกไกโด ซึ่งต้องบอกว่าเป็นสวรรค์น้อย ๆ ของญี่ปุ่นเลยทีเดียว เพราะที่นี่เป็นพื้นที่มรดกโลกทางธรรมชาติที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากยูเนสโกมา 15 ปีแล้ว ด้วยความที่มีทั้งภูเขา ป่าไม้ และทะเลหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว มันจึงสร้างระบบนิเวศที่สมบูรณ์แบบและกลายเป็นบ้านแสนสุขของเหล่าสัตว์ป่า โดยเฉพาะประชากรหมีสีน้ำตาลที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่หนาแน่นที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
ลุงโอเสะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางหมีสีน้ำตาลมานานกว่า 36 ปี โดยไม่เคยมีอุบัติเหตุหรือการปะทะรุนแรงกับหมีเลยแม้แต่ครั้งเดียว ความสามารถในการอยู่ร่วมกับหมีของเขานั้นมาจากปรัชญาที่ลึกซึ้ง เขาเชื่อว่าเราต้องเคารพระบบนิเวศและปล่อยให้สัตว์ป่าอยู่รอดด้วยวิถีของพวกมันเอง มีเหตุการณ์หนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงแนวคิดนี้อย่างชัดเจน เมื่อลุงโอเสะพบซากวาฬเพชฌฆาตที่ถูกคลื่นซัดเข้าฝั่ง แทนที่จะเพิกเฉย เขากลับช่วยผูกซากวาฬนั้นไว้กับก้อนหินไม่ให้ถูกคลื่นพัดกลับไปและทำให้มันกลายเป็นแหล่งอาหารสำคัญสำหรับหมีในช่วงที่อาหารขาดแคลน การกระทำนี้เองที่สะท้อนให้เห็นวิธีการช่วยเหลือสัตว์ป่าโดยไม่แทรกแซงวงจรธรรมชาติมากจนเกินไป
พูดถึงการจัดการทรัพยากรธรรมชาติในฮอกไกโดแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและท้าทายมาก เพราะต้องสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกับการพัฒนาท้องถิ่น ทั้งด้านการท่องเที่ยว เกษตรกรรม และการประมง แต่ละปีรัฐบาลท้องถิ่นต้องทำงานหนักร่วมกับกระทรวงสิ่งแวดล้อมเพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงรักษาระบบนิเวศอันเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่
อย่างไรก็ตาม น่าเศร้าที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ สถานการณ์ของหมีสีน้ำตาลในฮอกไกโดกำลังลำบากมาก ๆ เนื่องจากจำนวนปลาในทะเลนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้หมีประสบภาวะขาดอาหารและอดอยากผอมโซ มีรายงานว่าพบแม่หมีอย่างน้อย 9 ตัวที่ต้องคอยมาหาเศษปลาตามแนวอวนประมง ภาพที่เห็นแล้วชวนสะเทือนใจที่สุดก็คือภาพแม่หมีกับลูกที่กำลังแย่งอาหารกันกิน และเหตุการณ์ที่แม่หมีตัวหนึ่งถูกพบขณะเลียขนลูกน้อยที่เสียชีวิตด้วยความอดอยากบนเนินเขาใกล้ ๆ กับถ้ำที่พวกมันอาศัยอยู่
เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ รัฐบาลฮอกไกโดและกระทรวงสิ่งแวดล้อมได้ออกมาตรการหลายอย่าง ทั้งการกำหนดกฎระเบียบเข้มงวดในการรักษาพื้นที่ป่าดั้งเดิมและประชากรหมี การควบคุมการทำประมงเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีแนวทางเข้มงวดเกี่ยวกับการเดินป่า การตั้งแคมป์ และการพบเจอสัตว์ป่า รวมถึงการให้ความรู้แก่นักท่องเที่ยวและประชาชนเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกับหมี
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะในพื้นที่อ่อนไหวอย่างพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าไม้ มีทั้งโครงการปลูกป่า การจัดการแหล่งกักเก็บคาร์บอน และการฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหายจากการตัดไม้ทำลายป่า เป็นต้น
ในยุคที่โลกเรากำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมอย่างหนักหนาสาหัสเช่นนี้ เรื่องราวของลุงโอเสะใน Bearman in Hokkaido อาจเป็นความหวังที่แสดงให้เห็นว่า การอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ และหนทางสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอาจไม่ได้อยู่ที่การแยกมนุษย์ออกจากธรรมชาติ แต่คือการเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจและเคารพซึ่งกันและกัน ผ่านมุมมองที่ว่า "มนุษย์เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมชาติ" นั่นเอง
▶ ติดตามสารคดี Bearman of Hokkaido คนรักหมีแห่งฮอกไกโด หมีสีน้ำตาลนับเป็นสัตว์บกขนาดใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น และเป็นสัตว์พื้นเมืองของฮอกไกโด เกาะใหญ่ในภาคเหนือ ที่คาบสมุทรชิเรโตโกะ มุมหนึ่งของฮอกไกโด มีชาวประมงกลุ่มเล็ก ๆ ค้นพบวิธีอาศัยอยู่ร่วมกันอย่างสันติกับหมีสีน้ำตาล
รับชมได้ทาง www.VIPA.me หรือ VIPA Application