ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“หน้าร้อน” เหงื่อออกมาก “กลิ่นตัว” แรงขึ้น ปัญหานี้มีทางแก้


วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

12 มี.ค. 68

จิราภพ ทวีสูงส่ง

Logo Thai PBS
แชร์

“หน้าร้อน” เหงื่อออกมาก “กลิ่นตัว” แรงขึ้น ปัญหานี้มีทางแก้

https://www.thaipbsbeta.com/now/content/2452

“หน้าร้อน” เหงื่อออกมาก “กลิ่นตัว” แรงขึ้น ปัญหานี้มีทางแก้
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

“หน้าร้อน” สิ่งที่ตามมาคือ แดดเปรี้ยง อุณหภูมิสูงขึ้น ร้อนจนเหงื่อท่วม นำมาสู่การมี “กลิ่นตัว” ที่แรงขึ้น แม้ตามธรรมชาติทุกคนจะมีกลิ่นตัวโดยเป็นกลิ่นจางๆ อยู่แล้ว แต่เมื่อมีสิ่งกระตุ้นบางอย่างก็จะทำให้กลิ่นตัวนั้นแรงขึ้น ซึ่งอาจกำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่กวนใจใครหลายคนในตอนนี้ ทำให้บั่นทอนความมั่นใจในการเข้าสังคมไปด้วย เราจึงขอพาไปทราบถึงการเกิดกลิ่นตัว สู่การรักษาและการป้องกัน

“กลิ่นตัว” เกิดจาก “ต่อมเหงื่อ” ในผิวหนังมนุษย์

เรื่องนี้ ผศ. ดร. ภญ.จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ความรู้ว่า ในผิวหนังของมนุษย์ประกอบไปด้วยต่อมเหงื่อที่สำคัญ 2 ต่อม คือ ต่อมเอกไครน์ (eccrine gland) และต่อมอะโพไครน์ (apocrine gland) ซึ่งแต่ละต่อมมีหน้าที่แตกต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ต่อมเอกไครน์

เป็นต่อมที่อยู่บนผิวหนัง มีหน้าที่ผลิตเหงื่อเมื่ออุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นเพื่อคลายความร้อนในร่างกาย ในเหงื่อจะมีน้ำและเกลือเป็นส่วนประกอบหลัก และจะระเหยเมื่ออุณหภูมิในร่างกายเย็นตัวลง โดยปกติแล้วเหงื่อที่ออกมานั้นจะไม่มีกลิ่น แต่ในบางกรณี เช่น การรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง ได้แก่ กระเทียม เครื่องเทศ หรือการดื่มแอลกอฮอล์ อาจทำให้เหงื่อมีกลิ่นซึ่งส่งผลต่อกลิ่นตัวได้

2. ต่อมอะโพไครน์ หรือต่อมกลิ่น

เป็นต่อมที่อยู่ในบริเวณที่มีขนขึ้นมาก เช่น รักแร้ ขาหนีบ หรือหัวหน่าว เป็นต้น ต่อมกลิ่นพบได้ตั้งแต่เกิด แต่จะเริ่มทำงานในช่วงวัยรุ่น มีหน้าที่ในการสร้างกลิ่นซึ่งเป็นลักษณะทางเพศแบบหนึ่ง สารที่หลั่งจากต่อมกลิ่นประกอบด้วยกรดไขมันหลายชนิด (fatty acid, sulfanyl alkanols และ steroid) มีลักษณะเหลวข้น ไม่มีกลิ่น เมื่อหลั่งออกมาด้านนอกของผิวหนัง สารดังกล่าวจะถูกเชื้อแบคทีเรีย (Corynebacteria spp.) เปลี่ยนให้เป็นสารที่มีกลิ่นซึ่งคือแอมโมเนียและกรดไขมันสายสั้น

ดังที่กล่าวข้างต้น “กลิ่นตัว” เป็นกลิ่นที่ร่างกายขับออกมาทางต่อมเหงื่อ ซึ่งสาเหตุของการเกิดกลิ่นตัวนั้น สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่

     1. สาเหตุภายนอก คือ ปัจจัยความร้อนกระตุ้นเชื้อแบคทีเรีย หรือการเป็นเชื้อราที่ผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่มีต่อมกลิ่น

     2. สาเหตุภายในร่างกาย คือ มีการขับสารบางอย่างออกมาจากต่อมกลิ่นและต่อมเหงื่อ เช่น ความเครียด การมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน การกินอาหารที่มีกลิ่นแรง รสจัดไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หรืออาหารที่มีเครื่องเทศเยอะ ๆ ผักและผลไม้ที่มีสารกำมะถันอย่างทุเรียน สะตอ ชะอม หัวหอม ผักตระกูลกะหล่ำ หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม เป็นต้น การดื่มแอลกอฮอล์ แอลกอฮอล์จะถูกเผาผลาญในตับและแตกตัวเป็นแอซีทาลดีไฮด์ (acetaldehyde) การใช้ยาบางชนิด ได้แก่ มอร์ฟีน ยาแก้ไข้ และยารักษาภาวะซึมเศร้า เป็นต้น ภาวะร่างกายหลั่งเหงื่อมากผิดปกติ หรือภาวะสุขภาพบางอย่างก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดกลิ่นตัวที่แตกต่างกันออกไปได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคตับ หรือโรคไต เป็นต้น

“กลิ่นตัว” การรักษาและเทคนิคป้องกัน

การกำจัดกลิ่นตัวให้หมดจากร่างกายนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้เนื่องจากกลิ่นตัวเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมี อย่างไรก็ตาม เรามีแนวทางการป้องกันและดูแลตัวเองเพื่อลดกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้

     1. การรักษาสุขอนามัยให้สะอาด การล้างทำความสะอาดบริเวณรักแร้ ขาหนีบ ด้วยน้ำสะอาดบ่อย ๆ จะลดปริมาณสารก่อกลิ่นที่หลั่งจากต่อมกลิ่นได้ การล้างด้วยสบู่ฆ่าเชื้อจะช่วยลดปริมาณแบคทีเรีย แต่ไม่ควรล้างบ่อยเพราะอาจทำให้ผิวแห้งและเกิดการระคายเคืองได้

     2. หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่ร้อนจัด อบอ้าว อับชื้น อากาศไม่ถ่ายเทหรือถ่ายเทไม่สะดวก

     3. หลีกเลี่ยงความเครียดและเรื่องตื่นเต้น โดยเมื่อร่างกายเกิดความเครียดจะหลั่งฮอร์โมนออกมา ทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกและทำให้รักแร้มีเหงื่อออกมา ทั้งนี้เหงื่อที่ออกมาจากความเครียดจะมีความแตกต่างจากเหงื่อทั่วไป เพราะเหงื่อจากความเครียดจะมีปริมาณของโปรตีนและไขมันมากเป็นพิเศษ เมื่อเหงื่อประเภทนี้ทำปฏิกิริยากับแบคทีเรียจะทำให้เกิดกลิ่นตามมาได้

     4. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารและผลไม้บางชนิดที่มีกลิ่นฉุน เช่น กระเทียม สะตอ ทุเรียน พริกป่น เนย ตับ ถั่ว ซึ่งเป็นแหล่งของสาร trimethylamine โดยจะถูกขับออกมาพร้อมกัน

     5. การใช้ผลิตภัณฑ์ยาระงับเหงื่อ (antiperspirants) โดยองค์ประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ คือ น้ำหอม แต่จะมีสารเคมีที่ทำหน้าที่อุดต่อมเหงื่อ เพื่อป้องกันไม่ให้เหงื่อออกมาจากรูขุมขน เมื่อไม่มีเหงื่อ ก็จะไม่เกิดกลิ่น สารเคมีที่นิยมใช้คือ เกลือของโลหะหนักอลูมิเนียมชนิดต่างๆ เช่น อลูมิเนียมคลอไรด์ (aluminium chloride) ที่มีประสิทธิภาพในการจับกับเกลือของน้ำเหงื่อให้กลายเป็นเจล มีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว จากนั้นจะไปอุดต่อมเหงื่อไม่ให้เหงื่อออก เมื่อสะสมมาก ๆ ร่างกายจะกำจัดออกโดยการผลัดเซลล์ผิว

     6. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารบางชนิดที่ช่วยกระตุ้นการขับเหงื่อ เช่น อาหารรสเผ็ด อาหารแปรรูปที่มีไขมัน เนื้อสัตว์ และคาเฟอีน เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีส่วนกระตุ้นให้เหงื่อออกได้

     7. แนะนำให้รับประทานอาหารที่ช่วยลดการผลิตเหงื่อ ได้แก่ อาหารที่มีแคลเซียม นอกจากนี้ การดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอจะช่วยแก้ปัญหากลิ่นตัวได้

     8. การใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย (deodorants) ทำหน้าที่หลักในการลดกลิ่นของร่างกายที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยองค์ประกอบหลักของผลิตภัณฑ์ คือ น้ำหอมและยากำจัดเชื้อแบคทีเรีย มีแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลาย โดยเมื่อเราใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เหงื่อจะยังคงออกตามปกติ

     9. การใช้น้ำหอมฉีดพ่นเพี่อกลบกลิ่นตัว แต่ต้องระวังอาการผื่นแพ้น้ำหอมหรือส่วนประกอบในน้ำหอมที่อาจเกิดขึ้นได้

     10. เลือกใช้เครื่องแต่งกายที่ระบายอากาศและความร้อนได้ดี เช่น เครื่องแต่งกายที่เนื้อผ้าทำมาจากเส้นใยธรรมชาติ ได้แก่ ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน เป็นต้น

     11. การควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกินกำหนด ยิ่งน้ำหนักตัวเยอะ ก็ทำให้มีกลิ่นตัวมาก อาจจะเกิดจากการที่ร้อนง่ายเหนื่อยง่าย รวมทั้งบริเวณซอกต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจากผิวหนังที่ย้อยไปปิด ทำให้อับชื้น ต้องดูแลดีๆ เพราะเกิดเชื้อราได้ง่ายมาก

     12. การโกนขนบริเวณรักแร้หรือทำเลเซอร์กำจัดขน เพื่อป้องกันแบคทีเรียและการสะสมของสารก่อกลิ่น

     13. การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน (Botulinum toxin) ที่ใต้ผิวหนังบริเวณรักแร้ เพื่อลดการสร้างสารก่อกลิ่น เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี แต่มีราคาสูง อีกทั้งไม่ใช่การรักษาปัญหากลิ่นตัวแบบถาวร เนื่องจากจะมีฤทธิ์อยู่แค่ 3-6 เดือน ทำให้ต้องฉีดซ้ำอย่างสม่ำเสมอ

     14. การผ่าตัดเอาต่อมกลิ่นออก เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดี แต่อาจมีผลข้างเคียงหลังการรักษา เช่น มีแผลเป็น เกิดการติดเชื้อ เป็นต้น และต้องทำการรักษาโดยศัลยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

“กลิ่นตัว” เป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากต่อมเหงื่อและต่อมกลิ่นในร่างกาย กลิ่นตัวแรงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตทั้งต่อตัวเองและผู้คนที่อยู่รอบข้าง ซึ่งเป็นปัญหาที่ควรเร่งหาสาเหตุ รวมไปถึงหาแนวทางแก้ไขและป้องกัน เพื่อไม่ให้ปัญหาเล็ก ๆ หรือจุดเริ่มต้นของปัญหานี้ กลายไปเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นในอนาคตได้


อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภญ.จิราพร เลื่อนผลเจริญชัย ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, si.mahidol

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

กลิ่นตัวเหงื่อเหงื่อออกต่อมเหงื่อหน้าร้อนฤดูร้อนวิทย์น่ารู้วิทยาศาสตร์น่ารู้วิทยาศาสตร์Thai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Science
จิราภพ ทวีสูงส่ง
ผู้เขียน: จิราภพ ทวีสูงส่ง

เซบา บาสตี้ : เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล สำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส / Specialist Contents / Journalist / Writer / Creative Copywriter / Proofreader Lover (ติดต่อ jiraphobT@thaipbs.or.th หรือ 0854129703)

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด